เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านวังหิน ต.ตะคุ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ว่าพบลูกจระเข้ อายุประมาณ 4 เดือน ลำตัวตั้งแต่หัวจรดหางยาวประมาณ 40 ซ.ม. ภายในคลองส่งน้ำลำสำราย ซึ่งเป็นคลองส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำสำราย ที่เป็นแหล่งพักน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงก่อนที่จะปล่อยลงสู่พื้นที่การเกษตรในเขตอำเภอปักธงชัย จึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่บ้านเลขที่ 77 บ้านวังหินหมู่ที่ 10 ต.ตะคุ อ.ปักธงชัย พบกลุ่มชาวบ้านทั้งเด็ก ผู้ใหญ่และคนชรา กำลังมุงดูลูกจระเข้ที่จับได้อยู่ภายในถังน้ำน้ำขนาด 50 ลิตร ซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านจับได้ขณะที่กำลังไปหาปลาอยู่ภายในคลองส่งน้ำลำสำราย ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยชาวบ้านส่วนใหญ่เกรงว่าอาจจะมีจระเข้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์อยู่ภายในแหล่งน้ำธรรมชาติภายในพื้นที่ และอาจจะกำลังแพร่ขยายพันธุ์อยู่ในขณะนี้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงชาวบ้านแถบนี้ก็อาจจะต้องถูกจระเข้เหล่านั้นทำร้ายเอาได้
นางณัฐภิชา โอตุ อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 77 หมู่ที่ 10 บ้านวังหิน ต.ตะคุ อ.ปักธงชัย กล่าวว่า สามีตนจับลูกจระเข้ตัวนี้ได้ขณะส่องไฟลงไปในคลองส่งน้ำเพื่อจับปลาแต่กลับพบว่ามีสัตว์น้ำรูปร่างแปลก ทีแรกก็คิดว่าเป็นกบแต่เมื่อมองดูดีก็ต้องตกใจเมื่อเป็นเป็นลูกจระเข้วัยกำลังดุ จึงได้ใช้สุ่มจับปลาที่เตรียมไว้ครอบลงไปและจับตัวขึ้นมาก่อนที่จะนำกลับมาบ้าน และปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน ถึงเหตุการณ์ที่มีลูกจระเข้มาเพ่นพ่านอยู่ภายในลำน้ำ ทั้งๆที่ภายในพื้นที่อำเภอปักธงชัยก็ไม่มีใครเลี้ยงจระเข้สักรายเดียว ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่กังวลว่าอาจะเป็นลูกจระเข้ที่อาศัยอยู่ภายในแหล่งน้ำแห่งใดแห่งหนึ่งหรืออาจจะอยู่ในต้นน้ำลำพระเพลิง และถูกกระแสน้ำที่ทางอ่างเก็บน้ำลำสำรายเพิ่งปล่อยน้ำมาให้พื้นที่การเกษตรไม่กี่วันก่อนหลังจากที่ในพื้นที่กำลังประสบกับภัยแล้งอย่างหนัก ทำให้ลูกจระเข้ตัวดังกล่าวพลัดหลงกับกลุ่ม ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงก็แสดงว่าจะยังคงมีพ่อ-แม่จระเข้และจระเข้อีกบางส่วนหลงเหลืออยู่ภายในแหล่งน้ำในพื้นที่และอาจจะทำอันตรายประชาชนที่อาศัยอยู่แถบนี้ได้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบพื้นที่เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าลูกจระเข้ตัวนี้มาจากไหน