ตีกลับพรบ.คุมสุรา ทบทวน ต่ำกว่า 25 ห้ามซื้อ

"ถกปัญหาความเป็นไปได้ในแนวทางปฏิบัติ"


ความคืบหน้าการเสนอร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ ที่จัดทำโดยกระทรวงสาธารณสุข เข้าที่ประชุม ครม.ในวันที่ 17 ต.ค. เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมาย ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า เนื้อหาบางมาตราใน พ.ร.บ.ควบคุมฯ มีความเหมาะสมและมีความเป็นไปได้ในการปฏิบัติใช้ แค่ไหนนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเวลา 12.30 น. พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้ออก มาแถลงถึงผลการประชุม ครม.ในเรื่องดังกล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ได้มีการพิจารณาถึงร่าง พ.ร.บ.การโฆษณาสุรา ที่ทาง กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยจะมีการจัดตั้งกลุ่มการหารือ ของกระทรวงต่างๆที่มีความรับผิดชอบร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงศึกษาธิการ พาณิชย์ อุตสาหกรรม และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่จะมาหารือว่า จะมีวิธีการใดที่จะดำเนินในลักษณะที่เป็นหนทางที่มี ความสมดุล ซึ่งที่ประชุม ครม.ได้พูดกันถึงเรื่องของมาตรการ ที่ใช้บังคับทางกฎหมายว่า คนที่มีอายุ 25 ปี ตามที่มีการ เสนอในร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวถึงจะดื่มสุราได้ โดยในเรื่องของ การบังคับได้มีการพูดถึงกันมากว่ามันจะไม่ได้ผล เพราะว่าทำอย่างไรจึงจะรู้ว่าอายุเกิน 25 ปีไปแล้ว และผู้ที่จะเป็น คนคอยตรวจสอบคอยควบคุมก็เป็นเรื่องที่ยากพอสมควร ดังนั้นจึงต้องมีการหารือกันต่อไป

"สรุปเนื้อหา 7 หมวด"


จากนั้น ในช่วงบ่าย ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษก ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมได้นำร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอขึ้นมาพิจารณา โดยร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าว มีเนื้อหาสรุป 7 หมวด ประกอบด้วย หมวด 1 คณะกรรมการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ หมวด 2 คณะ กรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งมี รมว.สาธารณสุข เป็นประธาน คณะกรรมการควบคุมฯ ของ กทม. และคณะ กรรมการควบคุมฯของจังหวัด หมวด 3 สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หมวด 4 การควบคุม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งกำหนดให้ผู้ผลิต หรือผู้นำเข้าปฏิบัติ โดยต้องมีบรรจุภัณฑ์ตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไข รวมทั้งกฎกระทรวงที่กำหนดสถานที่ห้ามขายและบริโภค เช่น วัด สถานที่ประกอบศาสนกิจ สถานที่ราชการ สถานที่ศึกษา ที่สาธารณะ และห้ามขายให้กับบุคคลที่อายุต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์ เป็นต้น รวมทั้งห้ามมิให้โฆษณาเครื่องดื่ม หรือแสดงชื่อ หรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

หมวด 5 การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หมวด 6 พนักงานและเจ้าหน้าที่ และหมวด 7 คือ บทกำหนดโทษ อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม ครม.เห็นชอบให้นำร่าง พ.ร.บ.ฯ กลับไปหารือและทบทวนในคณะกรรมการกลุ่มเล็ก โดยมอบหมายให้นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยจะเชิญกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงสาธารณสุข มาร่วมกันพิจารณาในประเด็นต่างๆที่จะต้องพิจารณาเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการปฏิบัติตามตัวบทกฎหมาย และการบังคับใช้กฎหมาย ที่อาจจะมีความยากลำบากอยู่บ้าง เมื่อได้ข้อสรุปจึงจะ นำเข้ามาพิจารณาในที่ประชุม ครม.ต่อไป

"ต้องช่วยกันหลายฝ่าย"


ต่อมา นายวิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ครม.ส่วนใหญ่เห็นด้วย กับร่าง พ.ร.บ.การควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ แต่ยังมีรายละเอียดที่จะต้องปรับปรุง เพราะเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง ครม. จึงมอบหมายให้นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะทำงานไปทบทวนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวให้รอบคอบก่อนเสนอกฎหมายให้คณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจร่างและนำเสนอสภานิติบัญญัติต่อไป โดยมีตนร่วมเป็นหนึ่งในคณะทำงาน เพราะในส่วนของกระทรวง ศึกษาธิการมีบุคลากรทั้งครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษาที่เกี่ยวข้อง และนอกจากมาตรการควบคุมการโฆษณา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ส่วนตัวเห็นด้วยว่าจะต้องมีมาตรการดำเนินการกับแหล่งอบายมุข ทั้งร้านเหล้า และอาบ อบนวด ไม่ให้อยู่ใกล้สถานศึกษา ซึ่งเรื่องนี้จะต้องหารือกับกระทรวงที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยกระทรวงศึกษาธิการพร้อมจะให้ความร่วมมือเต็มที่ ทั้งนี้ เชื่อว่าหากเอาจริง เอาจังคงทำได้ไม่ยาก และการทำคงไม่ทำแบบฮวบฮาบ แต่ภายในระยะเวลา 3-5 ปี แหล่งอบายมุขจะต้องหายไป จากบริเวณสถานศึกษา

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้าเข้าประชุม นายวิจิตรก็ได้ ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการเคยเสนอไปแล้วว่าไม่อยากให้มีการจำหน่ายสุราใกล้สถานศึกษา ซึ่งกระทรวงฯเหมือนเป็นยาดำที่ต้องเข้าไปมีบทบาทในทุกเรื่อง ทั้งนี้ มาตรการป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะทำได้เฉพาะช่วงที่เด็กมาอยู่กับสถานศึกษา แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คาบเกี่ยวกับครอบครัว จึงต้องอาศัยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสถาบันครอบครัว โรงเรียน และวัดด้วย ซึ่งกระทรวงฯอาจต้องก้าวเข้าไปสู่เรื่องครอบครัวศึกษา เพื่อให้ครอบครัวตระหนักสำนึกในหน้าที่ของครอบครัวที่มีต่อเด็ก ต้องเข้าใจว่าเด็กวัยรุ่นเป็นวัยอยากรู้อยากลอง จึงต้องช่วยให้วัยรุ่นมีกิจกรรมสร้างสรรค์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพราะวัยรุ่นยังไม่โตพอที่จะเลือกกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อชีวิต หากปล่อยให้สังคมเข้าไปมอมเมาก็จะยิ่งไปกันใหญ่

"ต้องลงรายละเอียดในทางปฏิบัติมากขึ้น"


ด้าน นพ.มงคล ณ สงขลา รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติให้กระทรวงสาธารณสุขนำข้อมูลรายละเอียดของมาตรการต่างๆ ที่นำเสนอไว้ในร่าง พ.ร.บ. การเสนอ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ....มาพิจารณาอีกครั้งในการประชุม ครม.วันที่ 24 ต.ค.นี้ เพราะการประชุมวันนี้ถูกกำหนดเป็นวาระจร ทำให้มีเวลาในการเสนอรายละเอียดน้อย โดยประเด็นที่ ครม.ต้องการความชัดเจนมากคือ เรื่องของมาตรการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะประเด็นอายุของผู้ซื้อ ซึ่งภายในร่าง พ.ร.บ. กำหนดว่าต้องมีอายุ 25 ปีบริบูรณ์ ครม.ต้องการให้มีการชี้แจงเหตุผลให้ชัดเจนว่าจะบังคับอย่างไร

ที่ประชุม ครม.มีความกังวลในประเด็นเรื่องอายุของผู้ซื้อ เนื่องจากปัจจุบันไม่มีมาตรการควบคุมที่ได้ผลพอ ผู้ขายยังดูเพียงหน้าตา แต่ไม่มีการตรวจบัตรอย่างจริงจัง จึงมีการทักท้วงว่าประเด็นดังกล่าวควรต้องลงราย ละเอียดมากขึ้น ว่าเมื่อออกมาตรการดังกล่าวแล้วจะบังคับใช้อย่างไร ซึ่งได้มีการศึกษารายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว สัปดาห์หน้าจะเตรียมนำเสนอ ครม.อีกครั้ง นพ.มงคล กล่าวและว่า จะมีการจัดประชุมพิเศษโดยเชิญกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการคลัง เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ ของแนวทางการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ. อาจจะมีการกำหนดเพิ่มเติมในเรื่องของสถานที่จำหน่าย โซนนิ่ง โดยจะกำหนดให้มีความชัดเจนมากขึ้น รมว.สาธารณสุขกล่าวอีกว่า ประเด็นที่สำคัญ

"สรุปแล้ว เห็นด้วยทุกฝ่าย"


อีกเรื่องคือ การพิจารณาปรับเพิ่มภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจะมีการหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาเรื่องเพดานภาษีอย่างไร ที่ผ่านมา ยังไม่มีการหารืออย่างจริงจังร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับกระทรวงการคลัง โดยกระทรวงการคลังจะเป็นผู้เสนอแนวทางภาษีต่อที่ประชุม ครม.สัปดาห์หน้าด้วยเช่นกัน

ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการศึกษาแนวทาง ข้อดี ข้อเสีย ของการออกมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้หมดทุกด้านแล้ว ไม่จำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติม การเสนอต่อที่ประชุมในสัปดาห์หน้า จะนำรายละเอียดของกฎหมายแต่ละมาตรานำเสนออีกครั้งว่าจะทำอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นที่ประชุมเพียงแต่ถามว่า สาเหตุที่ต้องกำหนดช่วงอายุที่ 25 ปี เพราะอะไร แต่โดยรวมเห็นด้วยกับเหตุผลในการกำหนดช่วงอายุดังกล่าว

"ยังคาใจเรื่องการกำหนดอายุ"


ส่วนปฏิกิริยาของผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลัง ครม.มีมติให้ทบทวนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ส่วนใหญ่ยังยืนยันสนับสนุนภาครัฐ แต่ขอให้ปฏิบัติอย่าง เท่าเทียม โดยนายปริญ มาลากุล ณ อยุธยา ผอ.ฝ่ายกิจการองค์กร บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิก บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์ไฮเนเก้น เบียร์ไทเกอร์ และเบียร์เชียร์ในประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทฯสนับสนุนการดำเนินการของภาครัฐ เพื่อลดปัญหาที่สืบเนื่องจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างขาดสำนึกรับผิดชอบ แต่มองเนื้อหาที่ออกมายังคลุมเครือ เป็นสีเทา เพราะกินใจความกว้างไป และเห็นว่าอาจเป็นการแก้ไขปัญหาที่ไม่ตรงจุด จึงอยากให้ชัดออกมาเลยว่า อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ ถ้าออกมาขาวกับดำ การปฏิบัติตามและการบังคับใช้กฎหมายก็ง่ายขึ้น ไม่ต้องตีความ นอกจากนี้ ควรมีมาตรฐานในการปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ที่จะส่งผลให้แบรนด์จากต่างประเทศมีข้อได้เปรียบในการแข่งขันเหนือแบรนด์ในประเทศ ส่วนของการที่ ครม.ตีกลับข้อห้ามคนอายุ 25 ปี ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยให้กระทรวงสาธารณสุขกลับไปศึกษาใหม่ ก็คงต้องรอดูกันอีกที

ด้านนายฉัตรชัย วิรัตน์โยสินทร์ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทบุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเบียร์สิงห์และลีโอเบียร์ กล่าวว่า กรณีที่ ครม.เด้งกลับประกาศของกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องใหญ่ๆ โดยเฉพาะเรื่องห้ามผู้มีอายุต่ำกว่า 25 ปี ซื้อสุรา และให้กลับไปทบทวนใหม่นั้น ส่วนตัวแล้วเห็นด้วยและเชื่อว่านายกรัฐมนตรีมองในแง่ของหลักการจริงๆ ว่า มีหลายเรื่องที่ไม่สมดุล มีการได้เปรียบเสียเปรียบกันและควรมีมาตรการอื่นๆ เช่น มาตรการเรื่องภาษีทำควบคู่กันไปด้วย มิฉะนั้น อาจเกิดสงครามราคาตามมาแน่นอน รวมถึงการห้ามโฆษณาผ่านสื่อทุกชนิด 24 ชั่วโมง แต่ยกเว้นการโฆษณาที่มาจากการถ่ายถอดสดการแข่งขันกีฬาและอื่นๆ เชื่อว่าหากเกิดการแข่งขันสูง จะทำให้เงินทองไหลออกนอกประเทศเป็นจำนวนมาก วิธีแก้ปัญหาของรัฐมีทางเดียว คือต้องทำมาตรการเรื่องภาษี โดยให้เก็บภาษีตามปริมาณแอลกอฮอล์ ตามหลักสากลที่ทำกันทั่วโลก ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าผู้ประกอบการต้องทำเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำลงและมีคุณภาพดีขึ้นแน่นอน แล้วผู้บริโภคก็จะเมาน้อยลงด้วย

"ผู้ผลิตรับปฏิบัติตามทุกอย่าง"


ขณะที่ นายสิทธิพร เอื้อทวีกุล ผู้ดูแลผลิตภัณฑ์บาคาร์ดี บรีเซอร์ บริษัทบาคาร์ดี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่ม บาคาร์ดี บรีเซอร์ เปิดเผยว่า พร้อมที่จะปฏิบัติตามข้อห้ามทุกประการ และคงต้องปรับเปลี่ยนแผนการทำตลาดใหม่ หากข้อห้ามดังกล่าวรวมถึงการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกับร้านค้า ร้านอาหาร ผับ บาร์ด้วย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของยอดขายเชื่อว่าข้อห้ามต่างๆ ของภาครัฐ รวมถึงห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 25 ปี ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ส่งผลกระทบ สิ้นปี 2549 ยอดขายยังเป็นไปตามเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโตร้อยละ 8-10 มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็นร้อยละ 80 จากปัจจุบันที่มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 70 ของมูลค่าตลาด รวมเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ พร้อมดื่ม 500 ล้านบาท เพราะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทฯ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ชายผู้หญิงวัยทำงานอายุ 25 ปีขึ้นไป และมากกว่าร้อยละ 60 เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่ก็เชื่อว่า หากข้อห้ามดังกล่าวออกมาเป็นกฎหมายชัดเจน จะทำให้ตลาดรวมเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่ม รวมสปายที่มีมูลค่าตลาดรวม 1,500 ล้านบาท หดหายไปกว่าร้อยละ 5

ต่อมาเวลา 17.30 น. นายมานิตย์ อรุณากูร รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รักษาการเลขาธิการ อย. เปิดเผยว่า ได้ลงนามในประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเรื่อง ให้เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยสุรา และลงนามในคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่องห้ามการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ มีผลบังคับใช้ 45 วัน นับจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว โดยสาระสำคัญ ของประกาศฉบับนี้ กำหนดให้เหล้า เบียร์ ไวน์เป็นสินค้าคุมฉลาก และห้ามโฆษณาตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นถ่ายทอดเหตุการณ์สดจากต่างประเทศ เช่น กีฬา ข่าวเหตุการณ์ หากมีการฉายภาพซ้ำต้องทำภาพเบลอ ไม่ให้เห็นภาพและโลโก้ และการโฆษณาในสิ่งพิมพ์ ซึ่งจัดพิมพ์นอกราชอาณาจักร โดยมิได้มีวัตถุประสงค์ให้นำเข้ามาจำหน่าย จ่ายแจกในราชอาณาจักรโดยเฉพาะ


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์