ฮือฮาพบโคลนดูด จี้พิสูจน์ป่าเชียงใหม่

นักวิชาการท้องถิ่นชี้ลักษณะเหมือนเยลโลว์สโตนในอเมริกา และมีคนเฒ่าคนแก่เล่าว่าเคยมีสัตว์ถูกดูดลงไปด้วย ลองทดสอบเอาไม้ยาว 15 ฟุต ทิ่มลงไปก็ยังไม่ถึงที่สุด เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพิสูจน์ เพื่อหาความจริงและอนุรักษ์เป็นสถานที่สำคัญของโลก

นางอุบล ทัศนโกวิท ผอ.การศึกษานอกโรงเรียน อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และนายปฐมภูมิ วรรณาวงค์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92/76 หมู่บ้านกล้วยไม้ ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่

นักวิจัยอิสระด้านโบราณคดีชื่อดังของจ.เชียงใหม่ ร่วมกันเปิดเผยว่า

จากการสำรวจของเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายที่ใช้เวลานับปีสำรวจป่าดงปงไหว บ้านป่าตึงหมู่ 4 ต.ร้องวัวแดง อ.สันกำแพง ในจุดที่เรียกว่า "ปงไหว" มีความพิเศษกว่าที่อื่นๆ คือมีลักษณะพื้นดินดูดสิ่งที่อยู่ข้างบน

พื้นดินบริเวณดังกล่าว ผิวดินมีหญ้าปกคลุม เมื่อคนไปยืนและเขย่าตัว ดินแถบนั้นจะไหวตามทันที นอกจากนั้นยังมีโคลนดูดด้วย

โดยทดลองเอาไม้ปักลงไปปรากฏว่า

ไม้ถูกดูดลงไปด้วย สันนิษฐานว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าว น่าจะเกิดขึ้นในช่วงยุคสมัยวอเตอร์เวิลด์ ซึ่งเป็นยุคที่แผ่นดินยกตัวขึ้นสูงพ้นน้ำทะเล และเป็นยุคของการสะสมตะกอนโคลนตม ประกอบกับการทับถมของซากพืชและสัตว์ผ่านกาลเวลามาช้านานนับพันปี

ที่ปงไหวนี้จากการสอบถามคนเฒ่าคนแก่ เล่าว่าในอดีตเคยมีช้าง วัว ควาย และคนที่เข้ามาบริเวณนี้ หายไปอย่างไร้ร่องรอย นอกจากนั้นเคยนำไม้ไผ่ยาวกว่า 15 ฟุต ทิ่มลงไปก็ยังไม่สุดและถูกดูดลงไปเรื่อยๆ

จึงเชื่ออีกว่าน่าจะเป็นปรากฏการณ์แบบเดียวกับเยลโลว์สโตน

หากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาขุดหรือพิสูจน์ อาจพบซากสัตว์หรือสิ่งอื่นๆ ใต้พื้นดิน ทุกวันนี้ถ้าเดินไปขย่มไปที่ผิวดินจะพบว่า มีความสะเทือนไหว นับว่าเป็นพื้นที่ที่มีคุณค่าควรอนุรักษ์เอาไว้เป็นสมบัติของโลกเป็นแห่งที่สองรองจากสหรัฐอเมริกา

ที่ผ่านมานายอำเภอสันกำแพงเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย มีรองเจ้าคณะอำเภอสันกำแพง เจ้าหน้าที่ททท. ส.จ.เขตสันกำแพง อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการป่าดงปงไหวมาหารือที่จะทำเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ในวันที่ 20 ต.ค. นี้ โดยเชิญผู้ว่าฯเชียงใหม่ เป็นประธาน