เมื่อวันที่ 23 มี.ค. นายโอภาส นวลวิไลลักษณ์ ประมงจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า เนื่องจากปีนี้ประสบปัญหาภัยแล้งเป็นระยะเวลานานกว่าทุกปี ซึ่งน่าจะต่อเนื่องไปจนถึงปลายเดือนพ.ค.ส่งผลทำให้น้ำทะเลมีความเข้มข้นสูง ซึ่งเมื่อน้ำมีความเค็มจัดก็อาจจะทำให้กุ้งตายได้ เพราะเมื่ออากาศร้อนจัดเป็นเวลานาน ทำให้น้ำในนากุ้งระเหยเร็วกว่าปกติ ค่าความเค็มของน้ำก็จะเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติ
ประมงจังหวัดกระบี่กล่าวว่า ขอเตือนให้เกษตรกรลดปริมาณการเลี้ยงให้น้อยลง ไม่ควรให้กุ้งอยู่ในบ่อหนาแน่นจนเกินไป เพราะอัตราเสี่ยงตายสูง และต้องควรระวังในเรื่องการให้อาหารอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอุณหภูมิสูงทำให้กุ้งกินอาหารได้ดีขึ้น แต่เมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรจะต้องลดการให้อาหารลงทันที เพราะกุ้งจะหยุดกินอาหาร จะทำให้อาหารเหลือตกค้างในบ่อ เราจึงต้องควบคุมการให้อาหารอย่างใกล้ชิด
“สิ่งต้องเฝ้าระวังอีกประการคือ ให้ระวังในเรื่องสีของน้ำ จะต้องคอยดูแลสีของน้ำให้ดี อากาศที่อุณหภูมิสูงและแสงแดดดีบวกกับเศษอาหารที่เหลือตกค้างในบ่อ จำให้สีน้ำเข้มและทำให้คุณภาพน้ำเสื่อมโทรมลง ดังนั้น ผู้เลี้ยงจะต้องควบคุมสีน้ำอย่างใกล้ชิด โดยพยายามอย่าให้สีน้ำเข้มจนเกินไป ซึ่งในช่วงกลางวันออกซิเจนจะสูงมาก แต่ในทางตรงกันข้ามในช่วงกลางคืนออกซิเจนจะต่ำมาก จึงต้องเพิ่มออกซิเจนในบ่อเลี้ยงโดยเพิ่มเครื่องตีน้ำในช่วงกลางคืน เพราะหากออกซิเจนในบ่อไม่พอกุ้งจะตายยกบ่อได้”