อาลัยพ่อสมเพียรภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกตร.

วันนี้ (17 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านพักเอกสมญา ภายในซอย 7 ถนนกาญจนวานิชย์ ตำบลคอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

นายชุมพล เอกสมญา เจ้าของบทเพลงบันนังสตา และเป็นบุตรชายคนโต ของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้ให้สมัภาษณ์ผู้สื่อข่าว ถึงการจากไปของบิดา โดย นายชุมพลฯได้เดินถือภาพถ่ายของคุณตา คือ ส.ต.ท.บัญชร คงอินทร์ ซึ่งเป็นตำรวจอยู่ที่บันนังสตาเมื่อปี พ.ศ.2504 ให้กับกับทีมข่าวดูและกล่าวว่า คุณตาก็เป็นตำรวจอยู่ที่ บันนังสตา มาก่อนและได้ถูกคนร้ายฆ่าตายในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ เหมือนกัน คราวนี้ถึงคิวพ่อแล้วและพ่อเคยพูดกับแม่และพวกผมอยู่เสมอว่า”เราเป็นคนไทย เราเป็นนักรบของพระมหากษัตริย์ เราต้องถวายความจงรักภักดี เราต้องทำให้ประเทศชาติร่มเย็น” คุณพ่อท่านไม่กลัวตาย ผมชอบประโยคนี้ที่ท่านพูดมาก

สมัยที่คุณตาเสียชีวิต ผมเห็นคุณยายนั่งรถจากบันนังสตาเข้าไปในตัวเมืองยะลา เพื่อไปเบิกเงินตอบแทนของคุณตาเดือนละ 800 บาท

ในปี 32,33,34 ผมก็ถามคุณยายว่าเงินแค่นั้นพอกินหรือยาย เงินตำรวจตั้งแต่คุณตาเสียชีวิตได้เดือนละ 800 บาท ซึ่งไม่ได้เปลี่ยนไปตามค่าของเงินในปัจจุบันเลย 800 บาทตั้งแต่สมัยยายเป็นสาว ตั้งแต่แม่ของผมอายุ 5 ขวบ มันพอหรือ แต่นี่ยายอายุ 70 หรือ 80 แล้ว คุณยายก็ตอบว่า...มันมีค่ามากสำหรับสามีที่เสียสละชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ นี่ก็คือ...รางวัลของนักรบชายแดนใต้ ตั้งแต่ในอดีต และก็ไม่แปลกที่วันนี้ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังมีปัญหารุนแรงแบบนี้

ต่อจากนั้น นายชุมพลฯ ได้เดินไปที่หน้าหิ้งพระแล้วหยิบสร้อยคอที่มีพระอยู่หลายองค์ ให้ทีมข่าวดูซึ่งสร้อยเส้นดังกล่าวขาดเป็นหลายท่อน

และสร้อยเส้นนี้เป็นของ พ.ต.อ.สมเพียรฯที่ถูกแรงระเบิดจนสร้อยคอขาด นายชุมพลฯได้มองไปที่พระเครื่องที่สร้อยคอของคุณพ่อ พร้อมกล่าวว่า ผมคิดว่าคงถึงเวลาแล้วนะที่องค์พระและพระนเรศวรฯที่ได้คุ้มครองคุณพ่อมานานกว่า 40 ปี ตั้งแต่คุณพ่ออายุ 18 ปี ซึ่งพ่อได้บรรจุเป็นพลตำรวจใหม่ๆ พระของพ่อก็คุ้มครองพ่อตลอด ถ้าท่านไม่โดนระเบิดเสียชีวิต

ท่านอาจจะเป็นตำรวจที่ทำงานให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติอาจจะยาวนานที่สุดถึง 42 ปี คือ พ่อบรรจุตำรวจตอนพ่ออายุ 17-18 ปี และอายุ 19 ปีก็แต่งงานกับแม่แล้ว

ถ้าเกษียณในเดือนพฤศจิกายน ท่านก็จะอายุ 61 ปี นั่นก็หมายความว่าท่านก็ได้ทำงานมานานถึง 42 ปี เป็นความภาคภูมิใจของผม ผมคิดถึงพ่อแล้วภูมิใจ ผมไม่รู้สึกเสียใจ น้ำตาผมไหลได้ 2 อย่าง คืออย่างแรกปิติ ที่พ่อเราเสียสละทำคุณงามความดี น้ำตาชุดที่สองเป็นเรื่องของการน้อยเนื้อต่ำใจว่า ไม่มีความยุติธรรมในสังคม เราให้รางวัลคนตายมากกว่าคนเป็น ตอนที่เค้ามีชีวิตอยู่ไม่ใส่ใจดูแล ไม่ให้รางวัลชีวิตกับคนเป็น เค้าตายไปแล้วค่อยมาให้รางวัล

ผมรู้สึกคับแค้นกับความไม่เป็นธรรม จนผมต้องร้องให้น้ำตาไหล วันเกิดเหตุกับพ่อ มีเพื่อนๆโทรฯหาเป็นร้อยสาย

แต่ผมไม่รับสายเลย ไม่ใช่ว่าเราอ่อนแอ แต่เจ็บใจที่ว่าเหมือนคนจมน้ำช่วยกันได้ง่ายๆ โดยการยื่นไม้ไปซี้.......ไม้บนฝั่งมีเป็นร้อยเป็นพัน คุณยื่นอะไรเข้าไปท่านก็รอด เหมือนกับโดมีโน่ คุณพลิกนิดเดียวมันก็ไปอีกทางหนึ่ง มันก็รู้ว่าต้องเป็นแบบนั้น “ย้ายท่านไปตรงไหนก็ได้”  จะให้อยู่กองเมืองยะลา หรือไปช่วยราชการตรงไหนก็ได้ ที่อำเภอเบาๆหน่อย ที่งานมันเบาลงหน่อย....นี่มัน...บันนังสตา

สำหรับคนอายุจะ 60 ปี...หรือว่าจะย้ายไป...บชน. ถ้าผู้เกี่ยวข้องมีความจริงใจที่จะอนุเคราะห์พ่อ ผมคิดว่าช่วยได้ ช่วยได้รวดเร็ว

ซึ่งผมอยากจะถามว่า”ท่านกลัวเสียหน้าหรือครับ”ที่จะช่วยทันที ที่มีตำรวจขาเป๋คนหนึ่ง ที่ขาใส่เหล็กตลอดชีวิต ไปหาท่านแล้วก็บอกว่า”ผมมาขอความเป็นธรรม ให้กับตัวเองและให้กับลูกน้อง” เพราะผมจะได้เป็นแบบฉบับให้กับคนรุ่นหลัง ที่ทำดีต้องได้ดี ท่านกลัวเสียหน้าหรือครับที่ท่านไม่ช่วย มันน่าอายตรงไหนการทำความดี ท่านอายต่อความดีหรือครับ ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเรา ท่านช่วยย้ายให้เค้าได้สมหวังเป็นรางวัลให้กับชีวิตหน่อย ไปหลบหน่อยก็ไม่ได้
 
แต่หลังจากที่พ่อผิดหวังไม่ได้ย้าย สิ่งแรกที่ท่านคุยคืนนั้นเลย ที่ท่านไปเยี่ยมผมที่หนองบัวลำภู พ่อคุยต่อหน้าแม่ ต่อหน้าพลขับเลย

ว่า”เราจะเดินเรื่องรบต่อ เรากางแผนที่ออกแล้วเราจะกลับไปรบต่อ เราจะไปยิงโจรอีก ไม่ได้ย้ายไม่เป็นไร งานมีงานต้องทำ” พ่อไม่ใช่คนที่ไม่ได้ย้ายแล้วงอมืองอเท้า นอนสบกินเหล้ากินเบียร์เมามายไม่ใช่ พ่อกลับกางแผนที่ระดมลูกน้องทำงานทันที ซึ่งถ้าท่านไม่โดนระเบิดในวันศุกร์ก่อนในวันเสาร์ท่านก็จะพาลูกน้องเข้าป่าออกตามล่าผู้ก่อการร้าย แต่น่าเสียดายที่ท่านไม่ได้ทำภารกิจ คาออกไปหาข่าวและประชุมท่านก็โดนแล้ว ผมเสียดายบุคลากรแบบพ่อ

ผมถามจริงๆว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติสร้างบุคลากรที่เข้าถึงมวลชนแบบนี้ จะต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ จะต้องเสียสละเวลาครอบครัวของคนๆนั้นเท่าไหร่

แล้วทำไมท่านไม่เอาเค้าเป็นเนติฯเป็นแบบอย่างให้กับตำรวจรุ่นหลังได้เป็นแบบอย่าง ว่า ทำดีได้ดี ท่านเอาพ่อผมเป็นเนติฯได้นี่ตรับ เป็นบุคลากรที่ให้ความรู้ ให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานรุ่นหลังได้ว่าการเข้าถึงมวลชนทำยังไง ไม่ใช่อยู่ในตำรา ในตำรามีหรือครับผู้กำกับไปขุดส้วมให้ชาวบ้าน พ่อผมนี่แหละรบนอกตำรา หาข่าวนอกตำรา พ่อทำด้วยความจริงใจไม่ได้เสแสร้ง การขุดส้วมให้พี่น้องมุสลิมที่นั่น ทำด้วยใจรักพวกเค้าจริงๆเอาความจริงใจเข้าแรกมา ข่าวแต่ละข่าวที่พาลูกน้องรอดมาได้ เอาเวลาที่อยู่กับครอบครัวพวกผมไปใช้ ท่านไม่ถนอม รัฐบาลไม่ถนอมชีวิตท่าน ไม่ให้โอกาส

ผมว่าพ่อเป็นบุคลากรที่น่าเสียดายสำหรับประเทศนี้ เพราะในตำราเรียนการรบที่ไหนไม่มีหรอกครับ ผู้กำกับฯลงไปขุดส้วม หาข่าว

ไปทำสุขอนามัยสอนชาวบ้านให้รู้จักสุชะอนามัยสาธารณสุข ปลูกผักผลไม้ ควบคู่ไปกับการปกปักษ์รักษาชาติบ้านเมือง ชี้ข้อดีข้อเด่นของการเป็นรัฐไทยเป็นยังไง ข้าราชการไทยไม่ได้รังแกชาวบ้านอย่างที่ผู้ก่อการร้ายชูประเด็นมาตลอด ว่ารัฐไทยรังแกชาวบ้าน รัฐไทยไม่ให้เกียรติ ตำรวจ ทหารไทยกดขี่ พ่อผมทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่เค้าพูดหมดเลย ครั้งหนึ่งมีคนบอกว่ามันน่าอาย เป็นผู้กำกับฯไปขุดส้วมช่วยพี่น้องประชาชน.....มันเสียศักดิ์ศรีหรือ พ่อผมไม่เคยรู้สึกว่าเสียศักดิ์ศรี การทำสิ่งเหล่านั้นมันนำความร่มเย็นให้กับพี่น้องประชาชนด้วยซ้ำ และก็เป็นประชาชนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทำให้ประชาชนของพระองค์ท่านได้อยู่ร่มเย็น ไม่ได้เชียวหรือ

ผมว่าพ่อผมเป็นนักพัฒนาด้วยนะ พ่อชอบปลูกต้นไม้ “ ผมภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกท่าน ครับ”

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์