(16มี.ค.) น.ท.พญ.อุบลวัณณ์ จรูญเรืองฤทธิ์ รองผอ.ศูนย์บริการโลหิต สภากาชาดไทย กล่าวว่า การเจาะเลือดตามกฏกระทรวงระบุว่าโลหิตที่เจาะถือว่าเป็นของติดเชื้อห้ามไม่ให้ผู้ใดกระทำการเพื่อให้แพร่กระจายของมูลฝอย เพราะ มีโอกาสแพร่กระจายของเชื้อโรคเพราะเชื้อบางอย่างทนอากาศร้อนหรือปะปนไปกับน้ำดื่มเช่นไวรัสตับอักเสบชนิดบี เอชไอวี เพราะเชื้อสามารถกระจายไปในที่สาธารณะได้
อย่างไรก็ตามบุคคลที่สามารถเจาะเลือดได้ต้องเป็นบุคคลากรทางการแทพย์ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล นักเทคนิคการแพทย์ ที่มีใบอนุญาตผู้ประกอบโรคศิลป์ ทั้งนี้ผู้เจาะเลือดหากเขารู้ว่าจะมีการเอาเลือดที่เจาะไปเททิ้งจะผิดหรือไม่ก็คงต้องมีกรรมการจริยธรรมพิจารณาเป็นองค์คณะไป
การเจาะเลือดคนละ 10 ซีซีไม่มากแต่ความพร้อมของร่างกายแต่ละคนต่างกัน หากผู้เจาะมีโรคประจำตัวอยู่แล้วอาจมีการกำเริบของโรคที่เป็นอยู่แล้วเพราะร่างกายไม่พร้อมแม้เอามาเพียง 10 ซีซี อาจส่งผลให้มีภาวะแทรกซ้อนตามมา ดังนั้นอะไรที่เสี่ยงต่อโรคก็อยากให้หลีกเลี่ยงอย่างไรก็ตามการรับบริจาคเลือดทั่วไปปกติอยู่ที่ 350-450 ซีซีแต่ไม่สามารถบริจาคได้ทุกคน ขึ้นกับอยู่ความพร้อมเช่นน้ำหนัก การพักผ่อน ของผู้บริจาค
กาชาดเตือนมีโรคประจำตัวห้ามเจาะเลือด
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!