สธ.เพิ่มระดับด้านการแพทย์พยาบาลเป็นระดับ 3 สูงสุดแล้ว

กระทรวงสาธารณสุข 15 มี.ค.- รมว.สาธารณสุข แถลงเพิ่มระดับการดูแลด้านการแพทย์พยาบาลในการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นระดับ 3 สูงสุดแล้ว กระจาย รพ.เพื่อพร้อมดูแลหากเกิดเหตุทั้ง 4 ทิศ ด้านปลัดสาธารณสุข แนะประชาชนพื้นที่พหลโยธิน-รามอินทรา หากไม่จำเป็นอย่าออกจากบ้านและอย่าตึงเครียด ส่วนผู้ชุมนุมระวังอากาศร้อนเกิดโรคลมแดดจับ โดยเฉพาะผู้สูงอายุหากเสียเหงื่อมากอาจเสียชีวิตได้

นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงการเตรียมพร้อมแพทย์ พยาบาล ในการรับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง

ขณะนี้ได้ปรับเพิ่มระดับความรุนแรง ภายใต้การดูแลของศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข ในสภาวะฉุกเฉินระดับชาติ ให้เป็นระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดแล้ว โดยใช้แผนเอราวัณ 3 ในการดูแล ซึ่งจะสอดคล้องกับศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) โดยได้มีการประเมินสถานการณ์และปรับพื้นที่บริเวณกรมทหารราบที่ 11  จากการดูแลแบ่งเป็น 4 จุดคือ

1.ทิศเหนือ มี รพ.ภูมิพล รับผิดชอบและมี รพ.ย่านปริมณฑลร่วมสนับสนุนจากพระนครศรีอยุธยา สระบุรี ปทุมธานี นครนายก และ รพ.เซ็นทรัลเยเนอรัล 

2. ทิศตะวันออก มี รพ.นพรัตนราชธานี รับผิดชอบและมี รพ.ชลบุรี  รพ.ฉะเชิงเทรา รพ.สินแพทย์  รพ.ศรีสยาม  สนับสนุน

3. ทิศใต้  รพ.วิภาวดีรังสิต รับผิดชอบมีสภากาชาดไทย รพ.รามาธิบดี รพ.ศิริราช มูลนิธิร่วมกตัญญู และ รพ. เมโย ร่วมด้วย

4.ทิศตะวันตก ศูนย์เอราวัณ รับผิดชอบร่วมกับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รพ.มงกุฏวัฒนะ  รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น

นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า การเตรียมพร้อมครั้งนี้ มี รพ.เข้าร่วม 47 แห่ง แบ่งเป็น รพ.ในพื้นที่ 21 แห่ง ปริมณฑลอีก 26 แห่ง สำรองเตียง 1,651 เตียง และสำรองเลือด 5366 ยูนิต

ด้าน นพ.ไพจิตร์ วราชิต  ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้คำแนะนำสำหรับประชาชนอาศัยใกล้เคียงพื้นที่ถนนพหลโยธิน รวมถึงเขตรามอินทรา ที่อาจจะมีกลุ่มคนเสื้อแดงไปชุมนุมว่า  เนื่องจากส่วนใหญ่อาจไม่คุ้นชินกับเหตุการณ์ชุมนุมเหมือนคนกรุงเทพฯ ชั้นในและไม่ได้รับผลกระทบมาก่อน  แนะนำว่าหากไม่มีความจำเป็นอย่าออกไปนอกบ้าน  ติดตามสถานการณ์ข่าวเป็นระยะ แต่อย่าตึงเครียด  หากรู้ตัวว่าตนเองอยู่ในสภาวะเครียดหรือเบื่อ  ควรเบี่ยงเบนความสนใจ หากิจกรรมอื่นทำทันที เพื่อลดความกดดันให้กับตนเอง 

พร้อมแนะนำกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยว่า ขณะนี้สภาพอากาศร้อน  ขอให้ระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหารหรือน้ำดื่ม

หากไม่สะอาด อาจทำให้ท้องเสียหรือท้องร่วงได้  และด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัด ควรหมั่นดื่มน้ำเย็นเพื่อลดความร้อนจากร่างกาย ป้องกันโรคลมแดดจับ โดยเฉพาะผู้สูงอายุพบว่าหากอยู่ในสภาวะที่อยู่ในอากาศร้อนจัด  ร่างกายเสียเหงื่อมาก มีภาวะเลือดข้น อาจทำให้เสียชีวิตได้.- สำนักข่าวไทย


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์