พระราชทานที่ดิน 15 ไร่ ตั้งศูนย์อพยพช่วยน้ำท่วม

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (14 ต.ค.) ว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง ทรงมีพระราชประสงค์สร้างศูนย์อพยพและพักพิงเป็นอาคารถาวร เพื่อให้ผู้ประสบอุทกภัยมีที่อยู่อาศัยระหว่างถูกน้ำท่วมบ้านพัง ในพื้นที่ จ.อ่างทอง และเป็นที่พักช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติอื่นๆ รวมทั้งเป็นสถานที่ฟื้นฟูอาชีพให้ผู้ประสบภัยมีรายได้เสมือนศูนย์ศิลปาชีพ ในขณะที่ยังไม่มีรายได้จากการเกษตรและอื่นๆ ด้วย

ด้านนพ.ถวัลย์ พบลาภ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง กล่าววันนี้ (14 ต.ค.) ว่า จากสภาพน้ำท่วมที่ขณะนี้มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น มีโรงพยาบาลที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลไชโยและโรงพยาบาลโพธิ์ทอง โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลโพธิ์ทองคาดว่าน้ำอาจจะเข้าท่วมโรงพยาบาลในช่วงเย็นวันนี้ ได้ระดมเจ้าหน้าที่ขนย้ายเวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ไว้ในที่สูง และทำแนวป้องกันน้ำท่วมโดยรอบโรงพยาบาล รวมทั้งเครื่องปั่นไฟฟ้า

และได้ประสานงานเตรียมขนย้ายผู้ป่วยที่นอนรักษาอยู่ 20 ราย หากน้ำท่วมจะส่งต่อไปที่โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญและโรงพยาบาลแสวงหา จังหวัดอ่างทอง โรงพยาบาลท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี และหากเป็นผู้ป่วยหนักจะส่งไปที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนที่โรงพยาบาลอ่างทองได้ทำแนวป้องกันไว้อย่างเต็มที่แล้ว คาดว่าจะรับมือปัญหาน้ำท่วมโรงพยาบาลได้เช่นกัน

ขณะที่ นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมว่าปัญหาที่พบขณะนี้จะเป็นโรคน้ำกัดเท้า ผื่นคันตามตัว เนื่องจากชาวบ้านต้องลุยน้ำ แช่น้ำนาน ส่วนโรคติดต่อ เช่น โรคตาแดง พบประมาณร้อยละ 10 ได้ระดมหน่วยแพทย์ออกให้บริการเต็มที่ ตลอดวันที่ 13 ตุลาคม 2549 มีหน่วยแพทย์ออกบริการกว่า 300 ทีม

ให้การรักษาผู้เจ็บป่วยรวม 20,094 ราย ผู้ป่วยสะสมตลอดกว่า 1 เดือน มีทั้งหมด 308,777 ราย จากการแยกวิเคราะห์โรค พบโรคน้ำกัดเท้า 129,907 ราย มากที่สุดที่จังหวัดนนทบุรี อ่างทอง และสุโขทัย โรคเครียด 20,207 ราย พบมากที่จังหวัดสุโขทัย อ่างทอง และชัยนาท โรคตาแดง 11,547 ราย พบมากที่จังหวัดพิษณุโลก พระนครศรีอยุธยา และอ่างทอง และถูกสัตว์มีพิษกัด เช่น ตะขาบ แมลงป่อง ต่อ 10,681 ราย พบมากที่จังหวัดนครสวรรค์ สุพรรณบุรี และพระนครศรีอยุธยา ไม่มีใครเสียชีวิตจากการเจ็บป่วย

โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า ขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนในเรื่องของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น เสื้อ-กางเกง ซึ่งควรเป็นผ้ายืด เพราะจะใส่ได้ทุกวัยทุกขนาด ผ้าอนามัย ถุงขยะ ยากันยุง ผ้าห่ม ไม้ขีดไฟ มุ้ง ยาสีฟัน น้ำดื่ม สบู่ ผ้าอ้อมสำเร็จรูปทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ที่เป็นอัมพาต เคลื่อนไหวลำบาก กระทรวงสาธารณสุข จึงได้เปิดรับบริจาคสิ่งของดังกล่าวที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) วันหยุดเปิดรับตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. วันธรรมดาเปิดรับในเวลาราชการ สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2590-7096 0-2590-7104 0-2590-7105 และเปิดรับบริจาคเงินผ่านบัญชีกระทรวงสาธารณสุขเพื่อผู้ประสบภัย เลขที่บัญชี 340-2-11600-7 บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขากระทรวงสาธารณสุข

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ