น้ำทะลักเขื่อนแควน้อยท่วมนครสวรรค์สูงสุดรอบ60ปี

"คันกั้นน้ำ กทม.ยังรับได้"


อธิบดีกรมชลฯ หนักใจน้ำเจ้าพระยาที่นครสวรรค์ เพิ่มสูงสุดเป็น 5,520 ลบ.ม.ต่อวินาที สาเหตุจากน้ำที่เขื่อนแควน้อยจ.พิษณุโลก ผนวกกับน้ำจาก จ.สุโขทัย เชื่อเป็นตัวเลขสูงสุดรอบ 60 ปี ที่กรุงเทพฯ มีน้ำไหลผ่านเช้านี้ 4,216 ลบ.ม.ต่อวินาที ยันคันกั้นน้ำกรุงเทพฯ ที่เสริมขึ้นยังรับน้ำได้

(13ตค.) นายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา วันนี้ (13 ต.ค.) ว่า เมื่อเวลา 06.00 น. ปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ยังทำสถิติสูงสุดในรอบ 60 ปี นับจากมีการวัดปริมาณน้ำเมื่อปี 2489 โดยเพิ่มขึ้นไปอีกถึง 5,520 ลบ.ม.ต่อวินาที ทั้งนี้ สาเหตุเกิดจากมีปริมาณน้ำฝนที่ตกในจังหวัดพิษณุโลก ไหลผ่านทางเขื่อนแควน้อย ซึ่งเป็นเขื่อนที่ยังสร้างไม่เสร็จ มาผนวกกับน้ำจากจังหวัดสุโขทัย และคาดว่าจะเพิ่มอีกไม่มาก เพราะปริมาณฝนในตอนบนของประเทศเริ่มลดลงแล้ว

"หนักใจปริมาณน้ำนครสวรรค์"


ติดตามอยู่ว่าจะมีปริมาณน้ำมาเพิ่มเติมหรือไม่ ครั้งนี้เป็นน้ำพิษณุโลก ซึ่งลงมาทางเขื่อนแควน้อย ที่เรากำลังสร้างอยู่ เมื่อวานลงมามากเลย แล้วก็จากแม่น้ำยม จังหวัดสุโขทัย อีกจำนวนหนึ่ง ที่มีน้ำท่วมในช่วงนี้ แต่หากดูตามฝน เมื่อวานนี้ฝนลดลงแล้ว แต่ก็มีบางจุดที่มีน้ำอยู่ แล้วก็คิดว่าวันนี้น้ำที่นครสวรรค์ น่าจะสูงสุดแล้ว นายสามารถ กล่าวด้วยความหนักใจในปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น

อธิบดีกรมชลประทาน อธิบายว่า จะสามารถทราบปริมาณน้ำที่นครสวรรค์ ได้ล่วงหน้าประมาณ 1 วัน จากสถานีวัดปริมาณน้ำ อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ วัดปริมาณน้ำจากแม่น้ำยมกับแม่น้ำน่าน ใช้เวลา 6 ชั่วโมง เดินทางมาถึงอำเภอเมือง และจากสถานีวัดปริมาณน้ำ อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ วัดปริมาณน้ำจากแม่น้ำปิง กับแม่น้ำวัง ใช้เวลา 1 วัน เดินทางมาถึงอำเภอเมือง แต่ขณะนี้ที่สถานีชุมแสงมีน้ำบางส่วนเอ่อทุ่งอ้อมไปลงด้านข้างสถานีด้วย เนื่องจากน้ำได้ล้นตลิ่งไปหมดแล้ว ทำให้ไม่สามารถวัดปริมาณที่แท้จริงได้ ตัวเลขที่คำนวณออกมาเป็นการประมาณการเท่านั้น เช่นเดียวกับบริเวณก่อนถึงเขื่อนเจ้าพระยา น้ำได้ล้นออกไปขังอยู่ในทุ่งหลายแห่ง

"ไม่ล้นแน่ช่วงนี้น้ำทะเลหนุนต่ำ"


สำหรับที่เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ปริมาณน้ำไหลผ่านเพิ่มขึ้นเป็น 3,500 ลบ.ม.ต่อวินาที โดยก่อนที่จะมาถึงเขื่อนเจ้าพระยา มีน้ำบางส่วนได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดอุทัยธานี และน้ำบางส่วนถูกส่งออกไปทางคลองฝั่งตะวันออกและตะวันตก ขณะที่เขื่อนพระรามหก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำไหลผ่านจากแม่น้ำป่าสัก ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นเป็น 717 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลให้ที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งน้ำไหลผ่านมาถึงกรุงเทพฯ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 4,216 ลบ.ม.ต่อวินาที แล้ว

สำหรับปริมาณน้ำที่มาถึงกรุงเทพฯ ดังกล่าว อธิบดีกรมชลประทาน ยืนยันว่า จะไม่ล้นคันกั้นน้ำ เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงน้ำทะเลหนุนต่ำ ซึ่งกรมชลประทานได้ขอระบายน้ำลงมาในช่วงนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อจะสามารถลดปริมาณน้ำระบายในช่วงน้ำทะเลหนุนสูง 23-25 ตุลาคมนี้ได้

"กทม.เสริมคันกั้นน้ำสูง 2.70 ม."


ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อระดับน้ำทะเลสูงสุด และมีปริมาณน้ำผ่านอำเภอบางไทร 4,000 ลบ.ม.ต่อวินาที ระดับน้ำที่สะพานพระพุทธยอดฟ้า จะอยู่ที่ 2.50 เมตร ขณะที่กรุงเทพฯ ได้เสริมคันกั้นน้ำให้สูง 2.70 เมตรแล้ว

ด้านกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ คาดการณ์สภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าบริเวณกองบัญชาการกองทัพเรือ ประจำวันที่ 14 ตุลาคม 2549 น้ำขึ้นเต็มที่เวลา 14.14 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1.89 เมตร และเวลา 18.52 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1.99 เมตร ส่วนน้ำลงเต็มที่เวลา 06.08 น. สูงกล่าวระดับน้ำทะเลปานกลาง 0.99 เมตร และเวลา 16.25 น. สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 1.85 เมตร.-สำนักข่าวไทย


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์