ผอ.สทศ.แถลงยืนยันออกข้อสอบโอเน็ตตามหลักสูตร

กรุงเทพฯ 3 มี.ค. - ผอ.สทศ. ยืนยันออกข้อสอบโอเน็ต ม.6 ตามหลักสูตร และมีความยากที่ร้อยละ 60

ชี้ข้อสอบมีข้อโต้แย้งเพียง 16 ข้อ จาก 516 ข้อ คิดเป็นร้อยละ 3 ขณะที่ร้อยละ 97 เป็นข้อสอบที่ดี ส่วนหลักสูตรแกนกลางปี 2551 ที่ใช้ออกข้อสอบ มีเนื้อหาเหมือนหลักสูตรปี 2544 ต่างเฉพาะเรื่องตัวชี้วัด ขณะที่ข้อสอบศิลปะฟรี 2 คะแนนทุกคนในข้อที่ถามสีใดใช้แทนความรัก

ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.)

แถลงยืนยันการออกข้อสอบการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่กำลังมีปัญหานักเรียนตั้งข้อสงสัยว่าไม่เป็นไปตามหลักสูตร ว่า ข้อสอบที่ออกไม่เกินหลักสูตรทุกข้อออกตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2544 และหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ก็เป็นหลักสูตรที่ปรับปรุงมาจากปี พ.ศ. 2544 ซึ่งมีเนื้อหาเหมือนกัน ต่างกันที่หลักสูตรแกนกลางมีตัวชี้วัด ข้อสอบของ สทศ.ทุกข้อสามารถระบุได้ว่าออกตามมาตรฐานข้อใด ส่วนกรณีข้อสอบที่ถูกตั้งข้อสงสัยจากนักเรียนและสื่อ ในกลุ่มสาระสุขศึกษา พลศึกษา ศิลปะ และการงานพื้นฐานอาชีพ มีจำนวน 16 ข้อ จากข้อสอบโอเน็ตของ สทศ.ทั้งหมด 516 ข้อ คิดเป็นร้อยละ 3 ดังนั้น อีกประมาณร้อยละ 97 เป็นข้อสอบที่ดี ได้หรือไม่

ศ.ดร.อุทุมพร กล่าวด้วยว่า ข้อสอบโอเน็ตเป็นข้อสอบผลสัมฤทธิ์ ไม่ใช่ข้อสอบคัดเลือก จึงมีความยากปานกลางที่ร้อยละ 60 ไม่เหมือนข้อสอบความถนัดทั่วไป (GAT)

และความถนัดเฉพาะด้าน/วิชาการ (PAT) ที่ยากกว่า เหตุผลที่ใช้คะแนนโอเน็ต เพราะต้องการให้นำมาถ่วงคะแนนจีแพคจากโรงเรียน การออกข้อสอบที่ดี คือ ต้องออกตามธรรมชาติของวิชา ซึ่งยืนยันว่า หลักสูตรก็กำหนดให้โรงเรียนสอนเด็กไทยให้คิดวิเคราะห์ สทศ.จึงออกข้อสอบแนวคิดวิเคราะห์ เพราะสมองมี 6 ระดับ ต่ำที่สุดคือความจำ ตามมาด้วยความเข้าใจ การนำไปใช้ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ และการประเมินค่าสร้างจิตสำนึกต่อส่วนรวม ซึ่งข้อสอบ สทศ.มีทั้ง 6 ระดับ สทศ.ออกข้อสอบตามหลักสูตรที่กำหนดให้สอน แล้วจึงเป็นหน่วยวัดผลเสนอคะแนนย้อนกลับไปให้โรงเรียนนำไปปรับปรุง

“อย่างข้อสอบข้อ 41-45 เกี่ยวกับนักเทนนิส มีเนื้อเรื่องให้อ่านก่อน และให้ใช้ความรู้ในกีฬาเทนนิสมาตอบ ถ้าโรงเรียนไหนไม่สอนเทนนิส เป็นเรื่องที่โรงเรียนต้องรับผิดชอบ เพราะแสดงว่าโรงเรียนไม่ได้ทำตามหลักสูตรที่มีให้สอนเทนนิส เรื่องนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ต้องอธิบาย เพราะเป็นหลักสูตรกระทรวง” ศ.ดร.อุทุมพร กล่าว และว่า การสอนเทนนิสไม่จำเป็นต้องมีสนามก็สามารถสอนเนื้อหาของกีฬาได้ นอกจากนี้ คะแนนโอเน็ต 3 ปีที่ผ่านมาค่อนข้างต่ำ ซึ่งต้องไปถามเลขาธิการ สพฐ.

ศ.ดร.อุทุมพร กล่าวว่า สำหรับข้อสอบวิชาศิลปะ ที่ถามว่า สีใดใช้แทนความรัก เนื่องจากวัฒนธรรมได้เปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีชมพู ขาวและดำ

สทศ.จึงยกประโยชน์ให้นักเรียน โดยให้คะแนนฟรีกับนักเรียนทุกคน 2 คะแนน ส่วนข้ออื่น ๆ ที่นักเรียนสงสัย ยืนยันเป็นการออกข้อสอบตามหลักสูตร โดยเฉพาะกลุ่มสาระวิชาด้านสุขศึกษา พลศึกษา ศิลปะ และการงานพื้นฐานอาชีพ สทศ.ให้ความสำคัญ เพราะเป็นวิชาที่สร้างนักเรียนให้เป็นคนที่สมบูรณ์ หาก สทศ.ละเลยไม่ออกข้อสอบที่ชี้วัดเรื่องนี้ โรงเรียนก็จะยิ่งละเลย ซึ่ง สทศ.ไม่ต้องการเด็กที่เรียนเฉพาะกลุ่มสาระหลัก กลายเป็นเด็กหัวโต ตัวลีบ ซึ่งปัญหาที่เจอ คือ เด็กไทยไม่ค่อยอ่านหนังสือพิมพ์

อย่างไรก็ตาม ศ.ดร.อุทุมพร กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจะทำให้ สทศ.เพิ่มความระมัดระวังในการออกข้อสอบโอเน็ตปีหน้า

โดยจะระวังในเรื่องโจทย์คำถาม แต่รูปแบบยังยืนยันว่าจะทำเช่นเดียวกับปีนี้ ซึ่งจะมีทั้ง 4 ตัวเลือก และหลายตัวเลือก ทั้งนี้ จะนำข้อสอบโอเน็ต 16 ข้อที่มีปัญหาขึ้นเว็บไซต์ เพื่อให้นักเรียนและผู้ปกครองเข้าใจมากขึ้น ส่วนที่นักเรียนให้ความสนใจรายละเอียดที่แตกต่างของหลักสูตรปี 2544 และหลักสูตรแกนกลางปี 2551 สทศ.จะไปศึกษาลงรายละเอียดอีกครั้ง

ศ.ดร.อุทุมพร ยังกล่าวถึงกรณีที่นักเรียนใช้น้ำยาลบคำผิด (ลิควิดเปเปอร์) แต้มที่ดินสอ โดยอ้างว่าเป็นเครื่องรางนั้น

จากการตรวจสอบเบื้องต้นคะแนนของนักเรียนคนดังกล่าวไม่สูงในทุกวิชา ชี้ชัดว่าข้อสอบไม่ได้รั่ว และจากการสอบสวนนักเรียนยืนยันไม่มีเจตนา เพียงแต่ใช้ลิควิดแต้มดินสอเล่น เพื่อรอให้หมดเวลาสอบ แม้จะเค้นถามอย่างไร นักเรียนก็ยืนยันตอบว่าเป็นเครื่องราง โดย สทศ.อยู่ระหว่างติดต่อนักจิตวิทยามาสอบสวนเพิ่ม ผู้สื่อข่าวถามว่า การออกข้อสอบครั้งนี้มีอาจารย์ของ สพฐ.ร่วมออกข้อสอบด้วยหรือไม่ ศ.ดร.อุทุมพร กล่าวว่า ยังไม่มี ใช้อาจารย์ออกข้อสอบชุดเดิม ซึ่งเป็นอาจารย์จากโรงเรียนสาธิต แต่จะมีอาจารย์จาก สพฐ.มาช่วยออกข้อสอบในปีหน้า. - สำนักข่าวไทย