คู่รักเมืองผู้ดีถูกแจ๊คพอต2,940ล้านบาท

เผยตัวสองสามีภรรยาเมืองผู้ดีสุดเฮงพิชิตรางวัลแจ๊คพอตรับเงินก้อนโตกว่า3พันล้านบาท


วันนี้ (15 ก.พ.) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

ว่า โฆษกสำนักงานลอตเตอรี่แห่งชาติได้ออกแถลงว่า สามีภรรยาคู่หนึ่งชาวอังกฤษซึ่งอาศัยอยู่ใกล้กับเมืองคิเรนเซสเตอร์ เขตกลูเซสเตอร์เชียร์ เป็นผู้พิชิตรางวัลแจ๊คพอต ครึ่งหนึ่งของลอตเตอรี่ “ยูโรมิลเลียนส์” 112 ล้านปอนด์ โดยได้รับเงินรางวัลไปครึ่งหนึ่งคือ 56 ล้านปอนด์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,940 ล้านบาท ตามอัตราแลกเปลี่ยน 52.5 บาทต่อ 1 ปอนด์ เพราะรางวัลตแจ๊คพอตอีกครึ่งหนึ่งที่ถูกรางวัลนั้น มีผู้ซื้อล็อตเตอรี่แล้วถูกรางวัล อยู่ที่ประเทศสเปน
   
สำหรับเลขรางวัลที่ถูกแจ๊คพอตจากการออกเลขรางวัลไปเมื่อวันศุกร์ที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมานั้นคือ

1, 5, 18, 38, 45 และเลขลัคกี้สตาร์ 4 กับ 6 นับเป็นครั้งที่ 4 แล้วในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา ที่มีผู้ถูกรางวัลลอตเตอรี่ ยูโรมิลเลียนส์ในประเทศอังกฤษ กวาดเงินรางวัลไปได้แล้วกว่า 25 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1,312.5 ล้านบาท ดังนั้น การถูกรางวัลครั้งนี้ของสามีภรรยาชาวอังกฤษ จึงถือว่าเป็นการกวาดเงินรางวัลแจ๊คพอตไปได้มากที่สุดในประเทศอังกฤษ
   
ต่อมามีการแถลงข่าวเปิดตัวที่เมืองบาธว่า สามีภรรยาชาวอังกฤษผู้ถูกรางวัลแจ๊คพอต คือ นายไนเจล เพจ วัย 43 ปี อาชีพธุรกิจการดูแลซ่อมแซมอสังหาริมทรัพย์

ส่วนภรรยาชื่อ นางจัสติน เลย์ค็อก วัย 41 ปี อาชีพนายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ แต่งงานอยู่กินกันมา 8 ปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 3 คน ซึ่งต่างก็เป็นลูกติดมาจากการแต่งงานครั้งก่อน ได้แก่ ด.ญ.เอลล่า วัย 12 ปี ลูกติดจากฝ่ายพ่อ ส่วนฝ่ายแม่ มีน.ส.จอร์เจีย วัย 15 ปี และ ด.ช.จาค๊อบ วัย 11 ปี
   
รายงานข่าวระบุว่า สามีภรรยาคู่นี้มีท่าทีที่ผ่อนคลายหลังทราบข่าวดีกับการเป็นอภิมหาเศรษฐีเงินล้าน

ซึ่งแน่นอนว่าทั้งคู่ประกาศชัดเจนว่า จะเลิกทำงานแล้วหันมาพิจารณาเรื่องการใช้จ่ายเงิน เช่น การซื้อบ้านหลังใหม่ใกล้ที่เดิมแต่ขอที่มีขนาดใหญ่ขึ้นขนาด 5-6 ห้องนอน มีสระว่ายน้ำในตัว และพื้นที่กว้างขวาง จากนั้นก็วางแผนใช้เงินในการเดินทางไปท่องเที่ยว และหาซื้อรถคันใหม่มาใช้แทนคันเก่า ซึ่งฝ่ายสามีอยากได้รถคันใหญ่อย่าง แรนจ์ โรเวอร์ หรือไม่ก็ บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์ 5 ส่วนภรรยาซึ่งเคยใช้เก๋งขนาดเล็กอย่าง ฮอนด้า ซีวิค ก็อยากเปลี่ยนเป็นรถสปอร์ตหรู แต่ยังไม่ได้คิดว่าจะเอายี่ห้อใด.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์