สธ. 10 ก.พ. - นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมวอร์รูม สธ. เรื่องโรคไข้หวัดใหญ่ 2009
ขณะนี้สถานการณ์การระบาดเริ่มเข้าใกล้เคียงกับเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม 2552 ซึ่งเป็นช่วงระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ระลอกที่ 1 มีจำนวนผู้ติดเชื้อประมาณสัปดาห์ละ 100,000 คน ผู้ป่วยส่วนใหญ่ป่วยเล็กน้อย ไม่ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (1-7 ก.พ.53) มีผู้ป่วยกลุ่มอาการโรคไข้หวัดใหญ่เข้ารับการรักษาพยาบาลมากขึ้นต่อเนื่อง พบมีผู้ป่วยใหม่ 457 ราย และเสียชีวิต 3 ราย ซึ่งอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรง (โรคหัวใจ พิการทางสมอง โรคหอบหืด) ซึ่งเพิ่มจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ (25-31 ม.ค.) มีผู้ป่วย 369 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต
พบสัปดาห์นี้มีผู้ป่วยอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่แผนกผู้ป่วยนอกมากกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนผู้ป่วยนอก จาก 33 อำเภอ ใน 23 จังหวัด
และมีการระบาดเป็นกลุ่ม 10 กรณี ใน 7 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ยโสธร สระบุรี นครปฐม ระบาดเป็นกลุ่มในโรงเรียน จังหวัดละ 1 กรณี ส่วน จ.เชียงใหม่ และลำปาง มีการระบาดในโรงเรียน 2 กรณี และกรุงเทพมหานคร มีการระบาดเป็นกลุ่มในโรงเรียน 1 กรณี และในสถานที่ทำงาน 1 กรณี ซึ่งการระบาดดังกล่าวในสัปดาห์นี้น่าเป็นห่วงมาก ถือได้ว่าเป็นการระบาดระลอกที่ 2 ประชาชนและโรงเรียนต้องเตรียมตัวรับสถานการณ์การระบาดในระลอกที่ 2 นี้
อย่างไรก็ตาม ในระลอก 2 นี้มีเครื่องมือป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2 อย่าง คือ การป้องกันตนเองสำหรับประชาชนทั่วไป และวัคซีนสำหรับกลุ่มเสี่ยง
การป้องกันตนเองทำได้โดยล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในที่แออัด ใช้ผ้าปิดปาก-ปิดจมูกเมื่อเป็นหวัด เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น รวมทั้งหยุดงาน หยุดเรียน หยุดทำกิจกรรม พักผ่อนอยู่บ้าน เมื่อป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ และหากพักแล้ว 2 วัน อาการไม่ดีขึ้น ให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อรับยาต้านไวรัสที่โรงพยาบาล. - สำนักข่าวไทย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
