วันนี้(9ก.พ.)ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านที่หมู่ 7 บ้านสะพานสาม ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก
แห่ไปดูพระพุทธรูปที่มีน้ำไหลออกจากปลายนิ้วภายในวัดสะพานสาม จึงรีบไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อไปถึงพบว่าภายในศาลาการเปรียญ มีชาวบ้านจำนวนมากกำลังยืนมุ่งดูพระพุทธชินราชจำลอง ขนาดหน้าตักกว้าง 69 นิ้ว สูง 89 นิ้ว ประดิษฐานเป็นองค์พระประธานอยู่กลางศาลาการเปรียญ โดยชาวบ้านทุกคนต่างใจจดใจจ่อจ้องมองดูที่บริเวณปลายนิ้วกลางมือขวาขององค์พระพุทธรูป ที่มีน้ำไหลออกมาเป็นระยะ โดยทางวัดได้นำแก้วน้ำมาวางรอหยดน้ำเอาไว้ เมื่อมีน้ำหยดลงแก้ว ชาวบ้านต่างพากันร้องเฮและยกมือไหว้ขอพรต่างๆ นานา โดยประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ จึงมีการนำน้ำที่ไหลออกมาไปผสมกับน้ำในโอ่ง ให้ประชาชนที่มากราบไหว้นำไปดื่มกินเพื่อความเป็นสิริมงคล เมื่อประชาชนทราบข่าวต่างเดินทางมากราบไหว้ขอพร นำน้ำศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวไปดื่มกันตลอดทั้งวัน
นายเหลี่ยม จันทร์แก้ว อายุ 48 ปี ผู้ดูแลพระพุทธรูปและศาลาการเปรียญดังกล่าว เปิดเผยว่า ทราบว่าพระพุทธชินราชจำลอง มีน้ำหยดออกมาจากปลายนิ้วเมื่อประมาณเดือน พ.ค.2552
ขณะนั้นตนเองได้เข้าไปทำความสะอาดองค์พระ ตอนแรกคิดว่าเป็นน้ำฝนที่หยดลงมาจากหลังคา แต่เมื่อเฝ้าสังเกตอยู่พักหนึ่งจึงมั่นใจว่าไม่ได้เป็นน้ำฝน แต่น้ำดังกล่าวได้ไหลออกมาจากนิ้วกลางมือด้านขวาขององค์พระฯ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่ามีน้ำไหลออกมาได้อย่างไร จึงตัดสินใจเล่าให้พระวิรัช อธิปัญโญ เจ้าอาวาสวัดฟัง โดยเจ้าอาวาสได้กำชับว่าห้ามนำไปบอกใคร เพราะเกรงว่าจะถูกกล่าวหาว่าสร้างเรื่องหลอกลวง แต่มีชาวบ้านที่ทราบข่าวได้พูดกันปากต่อปาก จึงมีผู้มารองน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปดื่มกินเพื่อรักษาโรค และเพื่อความเป็นสิริมงคลจำนวนมาก
สำหรับประวัติของพระพุทธรูปชินราชจำลององค์นี้ เมื่อปี 2549 นายชวลิต ธนะชานันท์ อดีตผู้ว่าแบงก์ชาติ พร้อมคณะผู้มีจิตศรัทธาจากกรุงเทพฯ ได้นำผ้าป่ามาทอดที่วัด
พร้อมอันเชิญพระพุทธชินราชองค์จำลองมาถวาย เพื่อประดิษฐานเป็นพระประธานในศาลาการเปรียญที่กำลังก่อสร้างขึ้นใหม่ ทั้งนี้ ระหว่างที่หล่อองค์พระ คณะผู้จัดทำได้อันเชิญพระบรมสารีริกธาตุที่นำมาจากประเทศอินเดียบรรจุไว้ที่ยอดเกศของพระพุทธรูป ภายหลังจากที่นำมาตั้งประดิษฐานไว้จึงพบสิ่งอัศจรรย์ดังกล่าว