´โลชั่นหน้าพัง´ แม่บ้านซื้อมาลองใช้ "แชมพูโกร๋น"โผล่อีก
แชมพูหัวโกร๋น โผล่อีกแล้ว คราวนี้สาวสุพรรณซื้อมาใช้ ยังไม่ทันจะหมดขวด เส้นผมบนศีรษะเริ่มหลุดร่วง โดยเฉพาะตรงกลางกระหม่อมหลุดเป็นกระจุก ไปรพ.หมอระบุแพ้สารบางอย่างในแชมพู โคตรอับอายเพื่อนบ้าน เตรียมตั้งทนายฟ้องเอาผิดบริษัทผู้ผลิต อีกรายแม่บ้านโวย โลชั่นหน้าพัง ได้ยินคำโฆษณาจากวิทยุ ใช้แล้วใบหน้าขาว สวย ไร้สิวฝ้า เลยไปหาซื้อมาจากซุปเปอร์มาเก็ตในตัวเมือง ทั้งแบบหลอดและกระปุก โดยเป็นชนิดทาตอนกลางวันกับกลางคืน หลังใช้หมดไป 2 ชุด ยังไม่มีปัญหาอะไร พอชุดที่ 3 ใบหน้าเริ่มมีรอยด่าง แต่ยังเอะใจสงสัย พอชุดที่ 4 รอยด่างขยายวงกว้างจนเกือบเต็มใบหน้า แจ้งตร.เอาผิดบริษัทผู้ผลิต ขณะที่สธ.แฉ ครีมโลชั่นมีสารพิษเจือปน
สาวโวยโลชั่นทำหน้าพังรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 มี.ค. นางสุพิน อรินราช อายุ 40 ปี อาชีพแม่บ้าน อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 2 บ้านโพธิ์สว่าง ต.หมากแข็ง อ.เมืองอุดรธานี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.พิชิต เขตสกุล พนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองอุดรธานี ให้ดำเนินคดีกับบริษัทผู้ผลิตครีมโลชั่นทาผิวยี่ห้อหนึ่ง หลังจากทาไปแล้วทำให้ใบหน้าพัง เป็นรอยด่างน่า เกลียดไปทั่ว พร้อมกับนำโลชั่นชนิดหลอดกับกระปุกรวม 2 อัน ให้เจ้าหน้าที่ไว้เป็นหลักฐาน โดยสาวหน้าเสียโฉมให้การอ้างว่า ตนได้ยินคำโฆษณาทางสถานีวิทยุแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ว่า เมื่อทาโลชั่นยี่ห้อดังกล่าว จะทำให้ใบหน้าขาว สวย ไร้สิวฝ้า
จากนั้นตนจึงไปหาซื้อโลชั่นดังกล่าว มาจากร้านซูเปอร์มาร์เกตแห่งหนึ่ง ในตัวเมืองอุดร ธานี โดยซื้อมาใช้ทั้งแบบหลอดและกระปุก ซึ่งใช้สำหรับทากลางวันและกลางคืน ในราคาอันละ 35 บาท รวม 70 บาท หลังจากเดือนแรกผ่านไป ตนซื้อมาใช้หมดไป 2 ชุด ใบหน้ายังไม่มีสิ่งผิดปกติอะไร พอชุดที่ 3 เริ่มใช้ไปได้ระยะหนึ่ง ใบหน้าเริ่มแสบแต่ไม่คัน และใบหน้าเริ่มมีรอยด่างคล้ายตกกระทว่าตอนนั้นตนยังไม่เอะใจอะไร ยังทาโลชั่นต่อไป กระทั่งใช้มาถึงชุดที่ 4 ปรากฏว่ารอยด่างบนใบหน้า เริ่มขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ จนเกือบจะเต็มไปทั้งใบหน้า ตนเลยหยุดใช้พร้อมกับนำตัวอย่างโลชั่นไปให้ทางสาธารณสุขตรวจสอบ
"ทางสาธารณสุขขอเวลาตรวจสอบประมาณ 2-3 สัปดาห์ แล้วให้มาฟังผล แต่ฉันรอไม่ไหวเพราะร้อนใจ เลยมาแจ้งความกับตำรวจไว้เป็นหลักฐานก่อน เพื่อให้เรียกบริษัทผู้ผลิตฯ มาดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาล ที่ทำให้ใบหน้าตนหมดสวย และอยากเตือนให้ผู้ที่ใช้ครีมโลชั่น ระมัดระวังไว้ด้วย เพื่อจะได้ไม่เหมือนตนที่เป็นอยู่ในขณะนี้" นางสุพินเผย
ขณะที่นางสุธิณีย์ เหลือวงศ์ เจ้าหน้าที่เภสัชกร 5 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ทำการพิสูจน์ครีมโลชั่นดังกล่าวแล้ว พบว่ามีส่วนผสมของสารพิษบางชนิด เจือปนอยู่ในเนื้อครีม อย่างไรก็ตามเพื่อความแน่ใจ จะส่งเข้าไปตรวจในห้องแล็บ ของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์อุดรธานี เพื่อหาคำตอบที่แน่ชัดอีกครั้ง จากนั้นจะส่งผลให้ อย.พิจารณาดำเนินการ กับบริษัทดังกล่าวต่อไป
ด้าน ร.ต.อ.พิชิตกล่าวว่า เบื้องต้นต้องรอผลการตรวจจากสาธารณสุขก่อนว่า ครีมดังกล่าวมีส่วนผสมอะไร และเป็นสาเหตุที่ทำให้ใช้แล้ว ใบหน้าเป็นแบบนี้หรือไม่ จากนั้นถึงจะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินการต่อไป
อีกรายที่ จ.สุพรรณบุรี นางขวัญยืน กองม่วง อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 14 ต.ศรีสำราญ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี พร้อมเพื่อนบ้าน เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า ไปซื้อแชมพูมาใช้แล้วทำให้เส้นผมร่วงจนโกร๋น โดยนางขวัญยืนอ้างว่า เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ตนไปซื้อแชมพูสูตรขจัดรังแคยี่ห้อดัง ในร้านซูเปอร์มาร์เกตแห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี มาใช้ 2 ขวด แต่ใช้ยังไม่ทันจะหมดขวดแรก เส้นผมบนศีรษะเริ่มหลุดร่วง โดยเฉพาะเวลาเอามือเสยผม จะหลุดติดมือเป็นกระจุก จนขณะนี้เส้นผมตรงกลางศีรษะตนหลุดหายไปจนหมด พร้อมกับก้มหัวให้ผู้สื่อข่าวดู
นางขวัญยืนอ้างต่อว่า จากนั้นตนเกิดความเครียด เลยไปพบแพทย์ที่ รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 โดยตอนแรกหมอให้ยาคลายเครียดมากิน แต่เส้นผมบนศีรษะยังไม่หลุดร่วง แม้ว่าตนจะเลิกใช้แชมพูไปแล้ว อีกทั้งตนได้ยินเพื่อนบ้านเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ก็มีคนเคยใช้แชมพูยี่ห้อเดียวกับตนแล้วผมร่วงจนโกร๋น จึงตัดสินใจกลับไปหาหมออีกครั้ง โดยนำขวดแชมพูที่ใช้ไปด้วย คราวนี้ได้รับการยืนยันจากแพทย์ว่า สาเหตุที่ทำให้เส้นผมตนร่วง มาจากอาการแพ้สารบางชนิด ตนเลยไปแจ้งให้ทางร้านที่ขายแชมพูทราบ ทางร้านจึงส่งสินค้าในร้านคืนบริษัททั้งหมด จากนั้นตนไปร้องขอความเป็นธรรม ที่สาธารณสุขจังหวัด กับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค แต่ตนกลัวเรื่องจะเงียบ เลยมาร้องขอความเป็นธรรม กับผู้สื่อข่าวอีกทางหนึ่ง
"ก่อนที่ฉันจะมาร้องกับผู้สื่อข่าว ฉันไปดักรอพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มีกำหนดจะมาที่อนุสรณ์สถานดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี แต่หลังรอนานเป็นชั่วโมง ท่านนายกก็ยังเดินทางมาไม่ถึง ประกอบกับอากาศร้อน และฉันอายศีรษะของตัวเอง เลยเดินทางกลับบ้าน ทุกวันนี้ฉันไม่กล้าออกนอกบ้าน เพราะอับอายสายตนคนอื่นที่มอง หลังทราบสาเหตุจากหมอแล้ว ฉันจะให้ทนายฟ้องเอาผิดกับบริษัทผู้ผลิตต่อไป" นางขวัญยืนกล่าวด้วยความคับแค้นใจ.