หมอไทยเจ๋งพบวิธี ตรวจหวัดนกดื้อยาเป็นคนแรก ในโลก

"หาเชื้อดื้อยาหวัดนกสำเร็จแล้ว"


ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 9 ต.ค. ว่า ที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าโครงการวิจัยการพัฒนาการตรวจวินิจฉัยไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ดื้อยา ซึ่งสนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย เปิดเผยความสำเร็จโครงการวิจัยเรื่องการตรวจหาเชื้อไวรัสไข้หวัดนกดื้อยาได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลกว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะมีการเผยแพร่งานวิจัยชิ้นนี้ในวารสารทางการแพทย์ ระดับโลก

ชื่อ เอมเมอร์จิ้ง อินเฟคเทียส ดิซิสเซส (Emerging Infectious Diseases) และเจอร์นัล ออฟ เวอโรโลจิคัล เมธอดส์ (Journal of Virological Methods) ในประเทศอังกฤษ และจะมีการนำเสนองานวิจัยดังกล่าวอีกครั้งในเดือนธันวาคม ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยโครงการดังกล่าวถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากกับมนุษยชาติ เพราะสามารถตรวจผู้ป่วยหรือผู้ต้องสงสัยโรคไข้หวัดนกทุกรายว่ามีสายพันธุ์ที่ดื้อยาหรือไม่ เพื่อหาวิธีการรักษาที่ถูกต้อง

"สำเร็จรายแรกของโลก"


นพ.ยงกล่าวว่า วิธีการพัฒนาการตรวจดังกล่าวนั้น เท่าที่ทราบทั่วโลก ขณะนี้ยังไม่เคยมีใครตีพิมพ์หรือเผยแพร่องค์ความรู้ดังกล่าวในวารสารใดๆ จึงถือว่าเป็นครั้งแรกในโลก ทั้งนี้ ไม่ได้มีการจดลิขสิทธิ์ เพราะไม่ได้ หวังผลทางการค้า หากนักวิทยาศาสตร์ไม่ว่าชาติใดได้อ่านบทความที่เผยแพร่สามารถนำไปปฏิบัติได้ พร้อมกับจะนำความรู้จากงานวิจัยครั้งนี้ส่งไปให้กระทรวงสาธารณสุข

เพื่อเป็นวิทยาทานในการรักษาชีวิตผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกด้วย ทั้งนี้ การตรวจในแบบเดิมที่ปฏิบัติกันมาคือ การตรวจว่าเป็นไวรัสไข้หวัดนกหรือไม่ เป็นการตรวจหาเชื้อไวรัส เอช 5 เอ็น 1 เท่านั้น แต่งานวิจัยที่เสร็จสิ้นและได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการตรวจสอบจากวารสารทางการแพทย์ทั้ง 2 แห่ง ให้สามารถเผยแพร่ในวารสารได้คือ

"เจาะจงกรดอะมิโน 274"


การตรวจว่าผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกมีการเปลี่ยนทางพันธุกรรม ของเชื้อโรคเป็นสายพันธุ์ที่ดื้อยาหรือไม่ โดยวิธีการตรวจเป็นการใช้เครื่องมือเดิมที่มีอยู่ แต่เจาะจงไปที่กรดอะมิโนตำแหน่งที่ 274 ของเชื้อเอ็น 1 เพราะเป็นตำแหน่งที่พบว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงแล้วจะทำให้เชื้อโรคดื้อยาได้

หัวหน้าโครงการวิจัยการพัฒนาการตรวจวินิจฉัย ไวรัสไข้หวัดนก คณะวิจัยฯได้ทำการตรวจสอบความไวและความแม่นยำของวิธีการตรวจนี้กับตัวอย่างของเด็กหญิง อายุ 14 ปี ชาวเวียดนาม ที่ถือว่าเป็นคนแรกของโลกที่พบว่ามีเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ที่ดื้อยาและไม่ดื้อยาอยู่ ในคนคนเดียวกัน ในส่วนของตัวอย่างเชื้อโรคคนในประเทศ ไทยเป็นรายที่ทางคณะวิจัยฯได้เก็บด้วยตนเองเพียง 1 ราย

"ทดลองในสัตว์ด้วย"


เท่านั้น ที่เหลือเป็นการได้ตัวอย่างจากเสือ สุนัข แมว ซึ่งผลการเทียบวิธีการตรวจพบว่าวิธีดังกล่าวได้ผลดี ซึ่งต่อไปนี้วิธีการตรวจโรคไข้หวัดนกกับผู้ป่วยและผู้ต้องสงสัยทุกรายควรมีการตรวจเจาะจงไปยังกรดอะมิโนตำแหน่งดังกล่าวด้วย เพราะโอกาสในการเกิดเชื้อดื้อยาสามารถเกิดขึ้นได้ ยิ่งให้ยาโอเซลทามิเวียร์นานเท่าใด สายพันธุ์ไม่ ดื้อยาจะถูกทำลาย ขณะเดียวกัน

สายพันธุ์ดื้อยาก็จะเพิ่ม จำนวนมากขึ้น ซึ่งความรุนแรงของสายพันธุ์ที่ดื้อและไม่ดื้อยามีความรุนแรงเท่ากัน ทำให้การรักษาไม่ได้ผล ทั้งนี้ การศึกษาการดื้อยาในประเทศญี่ปุ่นพบว่าร้อยละ 18 ของผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ในคนสายพันธุ์ เอช 3 เอ็น 2 มีการเปลี่ยนแปลงของเชื้อโรค ภายหลังจากที่ได้รับการรักษาด้วยยาโอเซลทามิเวียร์


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์