จิตแพทย์ห่วงเด็กตีกันถ่ายคลิปประจานระบาดทั่ว


       จิตแพทย์ เผย2ปัจจัยหลักต้นเหตุเด็กตบตีกันแล้วนำมาถ่ายคลิ๊ปประจานฝ่ายตรงข้าม ด้านผอ.เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม อัดละคร ภาพยนตร์ สื่อเสี่ยงต้นเหตุเด็กเลียนแบบความรุนแรง วอนภาครัฐเปิดพื้นที่สร้างสรรค์แก้ปัญหา..

        เมื่อวันที่ 5 ก.พ. พญ.พรรณพิมล หล่อตระกูล ผอ.สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากการที่เด็กและเยาวชนไทยมีการแสดงพฤติกรรมรุนแรง เช่น การตบ ตี ชก ต่อยกัน และถ่ายคลิปวีดิโอเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตออกสู่สาธารณชนนั้น สาเหตุของปัญหาเกิดจากปัจจัยหลัก 2 ส่วน คือ

1. เด็กขาดที่พึ่ง ขาดคนปรึกษาในการแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง จึงต้องการทำอะไรบางอย่างเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของตนเองตาม ธรรมชาติของวัยรุ่น และ 2. การเลือกใช้กำลัง ความรุนแรง ตบตี เพราะคิดว่า เป็นการระบายอารมณ์ โดยพฤติกรรมนั้น จะมีความน่าสนใจในสังคม ทำแล้วเป็นข่าวและจะมีคนนำไปเลียนแบบพฤติกรรมนั้นต่อไป

        "ที่น่าเป็นห่วงคือ การที่เด็กเกิดความรู้สึกว่าการแสดงออกด้วยความรุนแรง และนำไปถ่ายคลิปเผยแพร่ในจังหวัดตนเอง จะเป็นการประจานฝ่ายตรงข้าม และยิ่งได้ลงข่าวหนังสือพิมพ์ หรือ โทรทัศน์ ยิ่งเป็นความสะใจ และเป็นผู้มีอำนาจในพื้นที่นั้นๆ" พญ.พรรณพิมล กล่าว

อย่างไรก็ตาม วันนี้ประเทศไทย มีการพูดถึงเรื่องนี้อยู่มาก แต่ยังไม่สามารถหาทางออกของการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ดังนั้นขอเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น คือ การที่ภาครัฐเพิ่มพื้นที่ที่ดีและสร้างสรรค์ให้เด็กมากขึ้น ที่สำคัญครอบครัวต้องเปิดใจรับฟังปัญหาทุกเรื่องที่เกิดขึ้นกับของลูกหลานของตนเอง

ด้าน น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า เรื่องตบตีกันในกลุ่มเด็กวัยรุ่นวันนี้เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการที่สื่อนำเสนอภาพความรุนแรง การตบตี การพูดคำหยาบผ่านทางละคร ภาพยนตร์ หรือเรียกได้ว่าสื่อเสี่ยง ทำให้เด็กที่ขาดวุฒิภาวะ ขาดความรู้ และประสบการณ์ รวมถึงครอบครัวไม่อบอุ่น เมื่อมีปัญหาทำให้ตนขาดที่พึ่ง เมื่อถูกเพื่อนชักจูงไปในทางที่ผิด ก็ทำให้เกิดการเลียนแบบการกระทำที่รุนแรงขึ้น

น.ส.ลัดดา เสนอให้รัฐบาลเอาจริงกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะการรณรงค์ให้ภาคสังคมผลิตสื่อที่ดีและสร้างสรรค์ออกสู่สังคม เพื่อลดพื้นที่สื่อเสี่ยง และสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่เด็ก ก็จะช่วยลดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเด็กและเยาวชนได้ทางหนึ่ง.

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์