เมื่อ 4 ก.พ. หนังสือพิมพ์พีเพิลเดลี่ของจีนรายงานข่าวพร้อมตีพิมพ์ภาพเด็กชายตัวน้อยวัย 2 ขวบ
ทราบชื่อภายหลังว่า ด.ช.เหลา ลู่ ถูกล่ามไว้กับเสาไฟตามลำพัง หลังมีผู้สัญจรไปมาต่างหยุดยืนดูภาพสลดที่เด็กชายตัวน้อย กระทั่งมีคนทนไม่ได้ร้องเรียนไปยังทางการให้เข้ามาช่วยเหลือเด็ก จากการสอบสวนพบว่า พ่อเด็กเป็นคนถีบสามล้อ ให้เหตุผลว่าต้องผูกลูกไว้เพื่อความปลอดภัยของลูกเอง หลังจากลูกสาวคนโต วัย 4 ขวบถูกลักพาตัวไปเมื่อเดือนก่อน
พ่อของเด็ก ชื่อนายเฉิน จวนหลิว ชาวจีนอายุ 42 ปี เป็นชาวมณฑลเสฉวน กล่าวว่า
ตนต้องรับจ้างออกไปขับรถรับส่งลูกค้า ส่วนภรรยาสภาพจิตไม่ปกติ ตนไม่มีวิธีอื่นที่จะดูแลลูก การล่ามลูกไว้เป็นหนทางเดียวที่ลูกจะไม่หลงหายไปไหน ส่วนลูกสาวที่หายไป แม้แต่รูปถ่ายตนก็ไม่มีจะไปทำประกาศติดตามหา
"ภรรยาผมดูแลลูกไม่ได้ ส่วนผมก็ต้องออกไปทำมาหากินมาเลี้ยงครอบครัว จึงต้องล่ามแกไว้กับเสาบ้างต้นไม้บ้าง" นายเฉินกล่าวและว่า ครอบครัวอาศัยอยู่ร่วมกันในห้องเช่าเล็กๆ ตนไม่มีเงินพอจ่ายค่าพี่เลี้ยงลูก วันละ 200-300 บาท แต่ก็ไม่ยอมขายลูก เคยบอกปัดไม่รับเงินจำนวนมาก ที่มีคนเสนอมาจะขอรับไปเลี้ยง
เมื่อเรื่องราวนี้ปรากฏเป็นข่าว มีเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล วันต่อมานายเฉินไม่ได้ล่ามโซ่ลูกอีก แต่ข่าวไม่ได้ระบุว่า หาทางออกได้อย่างไร
วันเดียวกัน ลอสแองเจลิส ไทมส์ รายงานเรื่องราวค้าเด็กในจีน โดยนายต้วน ยู่หลิน วัย 38 ปี เปิดเผยเรื่องราวหลังพ้นโทษจำคุก 4 ปีในข้อหาค้ามนุษย์ ว่า ตนเป็นนายหน้าขายเด็กทารกในมณฑลหูหนาน ปี 2544-2548 ซื้อเด็กมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าให้แม่ตนดูแล ก่อนขายต่อให้ลูกค้า ในสหรัฐและยุโรป รายละ 2 หมื่นบาท ทำให้ครอบครัวมีรายได้ถึงเดือนละ 99,000 บาท สูงเกินชาวนาทั่วไปอย่างนึกไม่ถึง แม้เรื่องนี้จะผิดกฎหมาย แต่คิดว่าไม่ได้ทำบาป เพราะเด็กอาจจะตายก็ได้ หากไม่มีคนรับไปเลี้ยง