สยอง! ปลิงเข้าก้นคีบออกสุดทุลักทุเล

สยองปลิงหลุดเข้าไปดูดเลือดในรูทวารหนัก


หนุ่มเมืองสิงห์ ที่เดินลุยน้ำจนต้องหามส่งร.พ.เป็นพัลวัน ดีที่แพทย์ใช้คีมคีบออกมาได้สุดทุลักทุเล หมอเตือนพวกลุยน้ำ ควรใส่กางเกงใน แต่งตัวให้มิดชิด มิเช่นนั้นเสี่ยงกับปลิงแน่ๆ หลายท้องที่ยังวิกฤต เจ้าพระยาเอ่อทะลักท่วมสิงห์บุรี อ่างทองจมบาดาล ตราดน้ำล้นเขื่อน จำเป็นต้องเร่งระบายน้ำ ตาก ดิน-หินถล่มทับเส้นทาง

เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.อ่างทอง ว่า


ความแรงของน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาได้กระแทกกัดเซาะคันดินกั้นน้ำสูง 2 เมตร บริเวณหลังสถานีอนามัย หมู่ 4 ต.ย่านซื่อ อ.เมืองอ่างทอง พังทลายเป็นทางยาว สาเหตุเนื่องจากคันดินไม่แข็งแรง และเปียกชุ่มน้ำมานานกว่า 10 วัน จึงเกิดการอ่อนตัว และไม่สามารถสร้างคันกั้นน้ำเสริมได้ ทำให้กระแสน้ำไหลบ่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในหมู่ 4-5 ต.ย่านซื่อ อย่างรวดเร็วและรุนแรงกว่าพื้นที่หมู่ 1 ที่คันดินพังทลายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ซึ่งชาวบ้านไม่ทันตั้งตัวจึงขนย้ายสิ่งของในครัวเรือนไม่ทัน โดย ต.ย่านซื่อ เป็นแหล่งผลิตขนมจีนใหญ่ที่สุดและเป็นต้นกำเนิดนาฏศิลป์พื้นบ้านรำวงและสตริงคอมโบ้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า


กระแสน้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมใน ต.เทวราช ต.ราชสถิตย์ อ.ไชโย นอกจากนี้น้ำได้ท่วมถนนสายอ่างทอง-สิงห์บุรี ตั้งแต่หน้าสถานีอนามัย ต.ย่านซื่อ ไปจนถึงวัดเจ้าบุญเกิด ต.เทวราช อ.ไชโย ระยะทางยาวประมาณ 3 ก.ม. ระดับน้ำสูง 50 ซ.ม. และกัดเซาะผิวถนนขาดที่วัดโบสถ์ย่านซื่อ รถสัญจรไม่ได้ มีความเสี่ยงสูงที่กระแสน้ำจะพัดตกไหล่ทาง

ขณะเดียวกันน้ำได้ไหลบ่าข้ามถนนเข้าท่วมนาข้าวใน อ.เมืองอ่างทอง ก่อนจะบรรจบกับคลองลำท่าแดง ที่น้ำเอ่อล้นตลิ่งอยู่เดิม

ไหลบ่าเข้าท่วมนาข้าวใน อ.ไชโย อ.โพธิ์ทอง โดยขณะนี้กระแสน้ำสูงถึง 40 ซ.ม. ล้นเอ่อรอบๆ วัดขุนอินทประมูล สถานที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ที่ยาวที่สุดในประเทศ อันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของ จ.อ่างทอง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังป้องกันอย่างเต็มที่

วันเดียวกัน น.พ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า


จากการเดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ที่ออกไปให้บริการรักษาพยาบาลประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมตามหมู่บ้านต่างๆ มีรายงานพบผู้ป่วย 1 ราย เพศชาย ที่ ต.บางกะบือ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี

ถูกปลิงไชเข้าทวารหนักขณะเดินลุยน้ำท่วมที่มีระดับน้ำสูงระดับอก และนำส่งโรงพยาบาลสิงห์บุรี แพทย์ได้คีบปลิงออก ขณะนี้อาการปลอดภัย จึงขอเตือนโดยเฉพาะเด็กๆ ไม่ควรลงเล่นน้ำท่วม เพราะอาจถูกปลิงไชเข้าตามอวัยวะต่างๆ ได้

น.พ.ปราชญ์กล่าวว่า ปลิงเป็นสัตว์ดูดเลือด ชอบอยู่ในน้ำนิ่งตามหนองน้ำ หรือลำธาร มี 2 ชนิด คือ

ปลิงควาย และปลิงเข็ม โดยปลิงเข็มนั้นจะเข้าทางตา รูจมูก หรือปากได้ จากการดื่มน้ำหรือล้างหน้าในลำธารที่มีปลิงอยู่ โดยปลิงจะเข้าสู่หลอดคอ หลอดอาหาร หรือที่หลอดลมได้อย่างรวดเร็ว อาการที่เกิดขึ้นคือ มีเลือดกำเดาออก ไอ หรืออาเจียนเป็นเลือด ทำให้เสียเลือดมาก ถ้าหากปลิงอยู่ในโพรงจมูกอาจทำให้ปวดศีรษะเป็นเวลานาน ถ้าอยู่ในกล่องเสียงจะทำให้ไอเป็นเลือด หายใจไม่ออก

นอกจากนี้ปลิงยังอาจเข้าไปทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือหลอดปัสสาวะ ของคนที่ลงอาบน้ำในลำธาร

ขณะที่ปลิงกัดหรือดูดเลือดจะปล่อยสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ฮีรูดิน (Hirudin) ซึ่งเป็นสารป้องกันเลือดแข็งตัว ทำให้เลือดไม่แข็งตัว และเสียเลือดเรื่อยๆ มีการศึกษาทางห้องปฏิบัติการพบว่า

พวกปลิงสามารถอดอาหารได้นานถึง 5 เดือน และหากปลิงไชเข้าไปในลำไส้ใหญ่ และทะลุลำไส้ จะทำให้ช่องท้องอักเสบ แต่พบได้น้อยมาก นอกจากนี้มีรายงานว่า ปลิงเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ และทำให้เกิดเป็นก้อนนิ่วขึ้นได้ภายหลังด้วย

น.พ.ปราชญ์กล่าวอีกว่า ในการป้องกันปลิงที่มากับน้ำท่วม


หากเป็นไปได้ขอให้ประชาชนเดินทางโดยเรือ แต่หากไม่มีเรือและจำเป็นต้องเดินลุยน้ำ ขอให้แต่งตัวมิดชิด ควรใส่กางเกงใน ใส่กางเกงขายาว และสวมถุงพลาสติกหุ้มเท้าทับปลายขากางเกง แล้วรัดด้วยเชือกหรือยาง เพื่อป้องกันไม่ให้ปลิงเข้าไปในกางเกง

น.พ.ปราชญ์ กล่าวอีกว่า

จากการตรวจเยี่ยมพื้นที่น้ำท่วมหลายจังหวัด พบว่าขณะนี้น้ำเริ่มเน่า ส่งกลิ่นเหม็นเพราะน้ำแช่ขังเป็นเวลานาน หากลงไปเล่นน้ำจะเสี่ยงติดเชื้อโรคที่อยู่ในน้ำได้มาก โดยเฉพาะโรคตาแดง โรคผิวหนัง และน้ำกัดเท้า เนื่องจากความสกปรกในน้ำมีความเข้มข้นมาก หลังจากที่เดินลุยน้ำแล้วขอให้รีบล้างชำระด้วยน้ำสะอาด และเช็ดให้แห้ง เพื่อป้องกันเท้าเปื่อย




แหล่งที่มา:

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์