เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 ก.พ. ที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช ถ.พหลโยธิน แขวงและเขตบางเขน กทม. ได้มีกลุ่มสมาคม(เงา)นกกรงหัวจุกแห่งประเทศไทย จำนวนกว่า 1,000 คน สวมชุดเสื้อสีเขียวเดินทางมาเพื่อเข้าพบและยื่นหนังสือ ต่ออธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ
โดยนายนิวัฒน์ คำแก้ว อายุ 40 ปี รองนายกสมาคม (เงา) นกกรงหัวจุกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มาเพื่อขอให้ยกเลิกพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ที่กำหนดให้นกปรอดทั้ง 36 ชนิด ที่พบในเมืองไทย เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทนกที่ผู้ครอบครองต้องมีใบอนุญาตในการครอบครอง ส่วนการประกวดนกปรอดหัวโขนนั้นต้องปฏิบัติตามประกาศกรมป่าไม้ เรื่องการประกวดแข่งขันนกปรอดหัวโขน ลงวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 โดยอธิบดีกรมป่าไม้ที่ระบุว่า ผู้ใดจะนำสัตว์ป่าคุ้มครอง ชนิดนกปรอดหัวโขน หรือสัตว์ป่าอื่นๆ เข้าประกวดแข่งขัน จะต้องนำเอกสารการแจ้งการครอบครองตามมาตรา 66 หรือ 67 ซึ่งได้จดแจ้งต่อกรมป่าไม้แล้วภายในเดือนพฤษภาคม 2535 และต้องนำเอกสารดังกล่าวติดตัวสัตว์ป่าไปด้วยทุกครั้ง และผู้ที่นำสัตว์ป่าไปเข้าประกวดแข่งขันจะต้องเป็นผู้ที่มีชื่ออยู่ในเอกสาร ดังกล่าวข้างต้น หรือผู้เข้าประกวดนำสัตว์ป่าคุ้มครองอื่นไปแข่งขัน หรือมีการตกลงกันซื้อขายสัตว์ป่าคุ้มครองภายในสถานที่ประกวด จะมีความผิดตามมาตรา 19 และมาตรา 20 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสี่ปี หรือทั้งจำทั้งปรับไม่เกิน 4 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายนิวัติน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางชาวบ้านได้เพราะขยายพันธุ์นกกรงหัวจุกได้มากกว่าจำนวนที่นกเกิดเองตามธรรมชาติ ปีละหลายหมื่นตัวเลยที่เดียว เป็นการสร้างอาชีพ ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกกล้วย คนทำกรงนก ตลอดจนคนเลี้ยงเพาะขยายพันธุ์
ต่อมานายนิพนธ์ โชติบาล นายสุวิทย์ รัตนมณี รองอธิดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ พร้อมด้วยนายชัชวาลย์ พิศดำขำ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ได้เชิญตัวแทนสมาคมเข้าประชุม ประมาณ 20 คน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยนายนิพนธ์รับปากว่าจะดูแลเรื่องดังกล่าวและยังไม่มีการจับกุมผู้ที่เลี้ยงและแข่งขันนกกรงหัวจุก ทางสมาคมจึงพอใจก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ บรรยากาศทั่วไปเป็นไปอย่างเรียบร้อย