ผู้นำศาสนาชาว3จ.ใต้ หวั่นเป็นแพะ เครื่องจีที200

ผู้นำศาสนา ยะลา ชี้ ปัญหาเครื่องตรวจระเบิด จีที 200 ทำชาว 3 จังหวัดชายแดนใต้ผวา กลัวตกเป็นแพะจาก การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ... 

นายนิมุ มะกาเจ ประธานสภาที่ปรึกษาเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดยะลา อดีต รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ยะลา กล่าวถึงกระแสสังคมในพื้นที่หลังจากมีการนำเสนอข่าว เครื่องตรวจระเบิดและสารเสพติด จีที 200 เป็นเครื่องลวงโลก ว่า เครื่องดังกล่าวนี้ ค่อนข้างดังไปในทางลบมากกว่า จากการที่มีการตรวจพบความไม่ชอบมาพากลมาตั้งแต่การจัดซื้อ มีการตรวจสอบความไม่ถูกต้องในเครื่อง และการ์ด นั้น ทำให้ จนท.ที่ออกมาใช้ ไม่ว่าจะเป็น ตำรวจ ทหาร พลเรือน เรื่องเกิดความกังวลในศักยภาพของเครื่องมือ

ในขณะที่ประชาชนเอง โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เคยได้มีข้อมูลความผิดพลาดในการใช้กับผู้นำศาสนาในพื้นที่ อ.จะนะ จนนำไปสู่การนำตัวไปสอบสวน หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในตลาดสดพิมลชัย ในเขตเทศบาลนครยะลา และล่าสุดเกิดเหตุการณ์ระเบิดศาลาแปดเหลี่ยม ริบเขื่อนแม่น้ำปัตตานี ในเขตเทศบาลนครยะลา จนเป็นเหตุให้มีการสูญเสีย จนท.ผู้ปฏิบัติทั้งทหาร ตำรวจ ไป 2 ราย ทั้งหมดทั้งหลาย ที่เกิดขึ้น ทำให้ชาวบ้านเริ่มเกิดความหวาดผวาขึ้นมา มีความกลัวในหลายประการ  โดยในหลักการบทบัญญัติศาสนาอิสลาม กรณีสิ่งใดที่ถูกสงสัย ให้ละเว้นที่สงสัย นั้น ถือเป็นสิ่งต้องห้าม หรือให้หลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านั้น

ดังนั้น ชาวบ้านเริ่มคิดในเรื่องนี้ โดยเกรงว่าหากพกพายาแก้โรคประจำตัวติดตัวและถูกตรวจ กลัวว่าเมื่อเครื่องชี้มูลว่าเข้าเป็นผู้ต้องสงสัย จะถูกนำไปสอบสวน และสู่การถูกนำตัวไปที่อื่น นำไปสู่การถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งเกิดขึ้นแล้วในอดีต ดังนั้น ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องการให้ จนท.ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง นำเครื่องเหล่านี้ ไปพิสูจน์ความสมบูรณ์ของเครื่องมือต่อหน้าสาธารณชนในพื้นที่ในหลายๆ คน ในหลายพื้นที่มากกว่า 7 ครั้ง ต่อเครื่อง จะทำให้ประชาชนในพื้นที่และ จนท.ผู้ใช้ เกิดความมั่นใจ

หากจนท.เอง หรือประชาชน มีความมั่นใจในศักยภาพของเครื่อง อาจทำให้ผ่อนคลายความเกรงกลัวลงได้ในระดับหนึ่ง ทั้งๆ ในขณะนี้เกิดกระแสออกมาแต่ยังไม่มีการพิสูจน์ที่ขัดเจนให้ประชาชนได้รับทราบที่แท้จริงแต่อย่างใด ณ วันนี้ จนท. ที่เกี่ยวข้องต้องพิสูจน์ศักยภาพของเครื่องดังกล่าวให้ประชาชนในพื้นที่ได้เห็นที่ชัดเจนโดยเร็ว ในขณะเดียวกัน ประชาชนโดยส่วนใหญ่ยังขัดข้องใจในกระบวนจัดซื้อเข้ามาด้วย เพราะหน่วยตำรวจซื้อมาในราคา เครื่องละ 4 แสนบาท ทหาร ซื้อในราคา 1 ล้าน 4 แสนบาท และฝ่ายปกครองซื้อมาในราคา 1 ล้าน 1 แสนบาท ทั้งที่เป็นเครื่องยี่ห้อเดียวกันซื้อจากบริษัทเดียวกัน อันนี้ ต้องตอบให้ประชาชนได้รับทราบในข้อเท็จจริงด้วย