3 ผู้บริหาร “ปูแดง ไคโตซาน” เข้ามอบตัวกับดีเอสไอแล้ว ด้านโฆษกดีเอสไอย้ำดำเนินคดีตามกฎหมายไม่ได้กลั่นแกล้ง มีพยานหลักฐานเข้าข่ายผิดกฎหมายแชร์ลูกโซ่ หากผู้ต้องหาเห็นว่าไม่ได้รับความยุติธรรมมีสิทธิร้องฟ้องศาลตามรัฐธรรมนูญ
พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และโฆษกดีเอสไอ กล่าวว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับอีก 3 คน ของบริษัท เบสท์ 59 จำกัด ตราปูแดง ไคโตซาน ประกอบด้วย นายสมปอง แซ่ตั้ง ประธานกรรมการบริษัทฯ นายธนารักษ์ กิจใบ และนายวิชาญ จำปาขาว เดินทางมามอบตัวที่สำนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมนำหลักทรัพย์มายื่นขอประกันตัวด้วย ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนจะพิจารณาโดยมีเงื่อนไข 2 ข้อ คือ 1. ผู้ต้องหาจะต้องไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน และ 2.ไม่ไปยุยงปลุกปั่นสมาชิกให้มาร้องเรียนหรือประท้วง หากผิดเงื่อนไข ดีเอสไอก็จะยกเลิกการประกันตัว สำหรับหลักทรัพย์ในการประกันตัวนั้น กำหนดไว้คือ เงินสด 2 ล้านคนต่อคน หรือโฉนดที่ดินมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวยืนยันว่าการดำเนินคดีกับผู้บริหารปูแดงฯ เป็นการดำเนินคดีตามกฎหมายไม่ได้กลั่นแกล้ง มีพยานหลักฐานพอสมควร ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่าง 4 หน่วยงานของรัฐที่ร่วมตรวจสอบ ได้แก่ กรมวิชาการเกษตร กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และ ดีเอสไอ ซึ่งเห็นตรงกันว่าการกระทำของบริษัทเข้าข่ายผิดกฎหมายแชร์ลูกโซ่ มีรายได้หลักจากการขยายองค์กรด้วยการหาสมาชิกเข้าร่วมเครือข่าย โดยเสนอผลตอบแทนที่สูงมากในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งต่างจากการขายตรงที่รายได้หลักมาจากการขายสินค้า
ส่วนข้อหาของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน คือ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 และข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวอีกว่า หากกลุ่มผู้ต้องหาเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ มีสิทธิที่จะฟ้องร้องต่อศาลตามรัฐธรรมนูญได้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
