ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะโตร้อยละ 2.7 หลังจากติดลบในปีที่แล้ว ร้อยละ 2.2 เชื่อเศรษฐกิจจีนจะเป็นหัวเรือใหญ่ของการเติบโต
เมื่อวันที่ 21 ม.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ระบุว่าการฟื้นตัวจากวิกฤติเศรษฐกิจที่เลวร้ายจะช้าลงในปลายปีนี้ เพราะผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มอ่อนแรง จึงเป็นความท้าทายที่สำคัญต่อเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ ในรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 2010 ระบุอุปสรรคสำคัญต่อการเติบโตคือปัญหาของตลาดการเงินและความต้องการที่ซบเซา ของภาคเอกชนในภาวะที่เกิดการว่างงานสูง
ธนาคารโลกชี้ภาพรวมของผลผลิตมวลรวม หรือ จีดีพี ของโลกว่า
น่าจะขยายตัวร้อยละ 2.7 และเพิ่มเป็นร้อยละ 3.2 ในปีหน้า จากที่หดตัวลงร้อยละ 2.2 ในปีที่แล้ว ทั้งนี้ คาดว่าประเทศกำลังพัฒนาจะเป็นผู้นำการเติบโต โดยเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึงร้อยละ 5.2 ในปีนี้ และเพิ่มเป็นร้อยละ 5.8 ในปีหน้า เศรษฐกิจจีนจะเป็นหัวเรือใหญ่ของการเติบโต คาดว่าจะเติบโตในอัตราร้อยละ 9 ทั้งในปีนี้และปีหน้า รองลงมาคือเศรษฐกิจในเอเชียใต้จะเติบโตร้อยละ 6.9 โดยที่อินเดียจะเติบโตร้อยละ 7.5
ทางด้านเศรษฐกิจของประเทศที่มั่งคั่งร่ำรวย จะยังไม่อาจฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
คาดว่าเศรษฐกิจของชาติพัฒนา จะเติบโตเพียงร้อยละ 1.8 ในปีนี้และเพิ่มเป็นร้อยละ 2.3 ในปีหน้า ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นศูนย์กลางของวิกฤติการเงิน คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 2.5 ในปีนี้และเพิ่มเป็นร้อยละ 2.7 ในปี 2554 แต่ปัญหาการว่างงานยังคงเลวร้าย.
เวิลด์แบงก์คาดเศรษฐกิจโลกปี53เติบโต 2.7%
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!