อุตรดิตถ์ - นายสอน สังข์ไทย ประธานหมู่บ้านประสบภัยน้ำท่วมดินโคลนถล่ม บ้านม่อนนางแหลม ต.ฝายหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์
กล่าวว่า หลังจากที่ชาวบ้าน 4 หมู่บ้าน คือหมู่ 4 บ้านต้นเกลือ หมู่ 6 บ้านห้วยใต้ หมู่ 7 บ้านผามูบ และหมู่ 11 บ้านมหาราช ต.แม่พูล อ.ลับแล ประสบอุทกภัยน้ำท่วมดินโคลนถล่ม เมื่อวันที่ 21-23 พ.ค.49 ภาครัฐได้จัดสรรที่อยู่อาศัยและที่ดินเพื่อการเกษตรให้ที่บ้านม่อนนางแหลม แต่สิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่ คือ ปัญหาเรื่องน้ำ เพราะน้ำที่มีอยู่ไม่พอเพียงต่อความต้องการของชาวบ้าน เกิดการขาดแคลนอย่างหนัก
นายสอนกล่าวว่า เมื่อเกิดปัญหา ชาวบ้านจึงต้องดูดน้ำจากสระน้ำที่กักเก็บเอาไว้บนเนื้อที่ 2 ไร่ มาทำประปา สระน้ำดังกล่าวเป็นน้ำที่มีหินปูนมาก
และอยู่ติดกับแปลงเพาะปลูก ทำให้สารเคมีและยาฆ่าแมลงไหลลงสู่สระน้ำ จนชาวบ้านล้มป่วย แพทย์ร.พ.ลับแล ตรวจพบก้อนนิ่วในไต ซึ่งเกิดจากการสะสมของหินปูน ที่มีการนำน้ำไม่สะอาดมาผลิตเป็นน้ำประปาดื่มกินเข้าไป ส่วนแผลพุพองที่พบตามร่างกายแพทย์วินิจฉัยว่า เกิดจากน้ำประปาที่สกปรกเนื่องจากมีสารเคมีตกค้างอยู่ ส่งผลทำให้ชาวบ้านย้ายอพยพกลับไปยังภูมิลำเนาเดิม จำนวน 35 ครัวเรือนแล้ว เพราะทนต่อปัญหาการขาดแคลนน้ำและการใช้น้ำประปาที่สกปรกไม่ไหว
"อยากให้ภาครัฐเข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำประปาให้มีความสะอาดขึ้น และเพียงพอต่อความต้องการของชาวบ้าน ถ้าไม่ดำเนินการคาดว่าจะมีชาวบ้านย้ายออกยกหมู่บ้านทำให้เป็นหมู่บ้านร้าง" นายสอน กล่าว