เจ้าบ่าว แค้น! แต่งงานสาวไม่ให้อึ๊บขอสินสอดคืน

เจ้าบ่าวหมาดๆ วิ่งโร่แจ้งตำรวจ หลังแต่งงานสาวเจ้าไม่ยอมให้ร่วมหลับนอน อ้างเป็นประจำเดือน ย่างเข้าคืนที่ 10 เจ้าสาวบอกพร้อม แต่ฝ่ายชายไม่เล่นด้วย ขอเรียกสินสอด 2 แสน ทองหนักอีก 2 บาทคืน ด้านตำรวจเตรียมเชิญฝ่ายหญิงมาเจรจาไกล่เกลี่ย

เหตุเจ้าบ่าวโร่พึ่งบารมีตำรวจหลังเข้าพิธีแต่งงานแต่เจ้าสาวไม่ยอมให้ร่วมหลับนอนรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.30น.วันที่ 13 มกราคม นายอนันต์ ศรีตะวัน อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 บ้านหนองโทน ม.4 ต.แคนใหญ่ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด พร้อมญาติ เข้าพบ พ.ต.ท.เริงศักดิ์ สุวรรณศรี สารวัตรเวร สภ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อให้ช่วยเรียกตัว น.ส.รสรินทร์ มูลตรี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/1 บ้านเหล่า ม.4 ต.หนองแก้ว อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกันไปเมื่อวัน ที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา มาเจรจาขอคืนสินสอดทองหมั้นจำนวน 200,000 บาท เนื่องจากฝ่ายหญิงไม่ยอมให้ร่วมหลับนอน

นายอนันต์ เล่าว่า มีอาชีพค้าขาย รู้จักกับ น.ส.รสรินทร์ ซึ่งทำงานที่ อบต.แห่งหนึ่ง มาประมาณเกือบ 2 ปีแล้ว จึงให้ญาติผู้ใหญ่ไปสู่ขอตามประเพณี โดยญาติของฝ่ายหญิงก็เห็นดีเห็นงามด้วย เรียกสินสอดเป็นเงินจำนวน 200,000 บาท พร้อมสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 1 เส้น ได้ฤกษ์เข้าพิธีแต่งงานในวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา ภายในงานจัดเลี้ยงโต๊ะจีน เชิญแขกไปร่วมเป็นสักขีพยานหลายร้อยคน

หลังเสร็จพิธีแขกเหรื่อทยอยกลับกันหมดแล้ว ตกกลางคืนญาติส่งตัวเข้าเรือนหอที่บ้านเจ้าสาว ปรากฏว่า น.ส.รสรินทร์ไม่ยอมให้นายอนันต์ร่วมหลับนอนด้วยอ้างว่ากำลังมีประจำเดือน จึงต้องนอนคนเดียวอย่างทุกข์ทรมานมานานกว่า 8 วันก็ยังอ้างว่า ยังมีประจำเดือน

จนกระทั่งย่างเข้าคืนที่ 10 น.ส.รสรินทร์ ก็ยังไม่ยอมให้ร่วมหลับนอน โดยยังอ้างว่ายังมีประจำเดือนอยู่ ทำให้นายอนันต์รู้สึกสงสัยในการแสดงออกของน.ส.รสรินทร์ นำเรื่องไปปรึกษากับญาติ ก่อนจะพากันไปพบ น.ส.รสรินทร์และญาติๆ เพื่อขอเลิกและขอสินสอดคืน ในที่สุดเขาบอกว่าพร้อมจะร่วมหลับนอนแล้ว แต่ตนไม่เอาด้วยกลัวโดนหลอกอีก ยืนยันจะขอเงินสินสอดทั้งหมดคืน เขาบอกเงินเอาไปใช้จ่ายกับการจัดงานหมดแล้วและยังท้าทายถ้าต้องการเงินคืนก็ให้ไปฟ้องศาลเอา

เบื้องต้นอาจประณีประนอมตกลงกันได้เนื่องจากเป็นสามีภรรยากัน พ.ต.ท.เริงศักดิ์ จึงจะเชิญฝ่ายหญิงมาเจรจาก่อน หากตกลงกันได้ก็แล้วกันไป แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็ขอแนะนำให้ นายอนันต์ ไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกันเองเพราะเป็นคดีแพ่ง ตำรวจทำได้แค่ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น

                                   สนับสนุนเนื้อหา