ลอดปากเสือแก้ซวยปีขาล

ปีเสือดุ ที่ใครๆก็หวาดวิตกหลังจากที่โหรหลายสำนักออกมาพยากรณ์อนาคตปี พ.ศ. 2553 

ที่เต็มไปด้วยเคราะห์กรรมไม่เว้นว่าจะเกิดราศีใดก็หลีกไม่พ้นแต่จะหนักเบาต่างกันตามบุญที่ได้สั่งสมไว้ ทำให้หลายคนเร่งหาวิธีแก้เคล็ดสารพัดโดยที่ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือไม่แต่ขอให้สบายใจไว้ก่อนว่าอย่างน้อยยังได้ทำอะไรบ้าง


เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาผู้คนหลั่งไหลไปลอด"ปากเสือ" กันที่วัดตะเคียน จ.นนทบุรี
เพื่อความเป็นสิริมงคล ในปีนักษัตร ปีขาล ไม่เว้นนักร้อง นักแสดง อย่างล่าสุด ปอ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ พระเอกชื่อดังก็แวะไปลอดเช่นกัน วิธีการลอดคือมุดเข้าปากเสือเป็นทางเข้าใต้ถุนโบสถ์แล้วเดินวน 3 รอบ ก่อนจะทะลุออกทาง "ปากมังกร" ชาวบ้านมีความเชื่อว่าการได้ลอดพระอุโบสถจะช่วยขจัดสิ่งอัปมงคล โรคภัยไข้เจ็บออกจากตัว และยังเป็นการเสริมดวงให้เจริญรุ่งเรือง จึงมีคนมาเข้าแถวลอดปากเสือกันอย่างคับคั่งเพราะวัดที่จะเปิดให้ลอดใต้โบสถ์หาได้ยากมาก 


จุดเด่นของวัดที่ดึงคนเข้ามามากที่สุด คือ ปากเสือที่อ้างค้างไว้ให้คนเดินลอดเข้าไปใต้ถุนอุโบสถเพื่อสะเดาะเคราะห์สร้างความแปลกใหม่และตื่นเต้นให้กับผู้ที่มาวัด

และคงจะจริงอย่างที่ว่าดูจากแถวที่หยาวเหยียดในวันหยุด และที่แปลกพิลึกยิ่งกว่าทันทีที่ลอดซุ้มประตูวัดเข้ามาก็จะพบกับรูปปั้นยักษ์ 2 ตนที่หน้าตาแปลกประหลาด

ดูยังไงก็ไม่เหมือนยักษ์ประจำวัดแจ้งกับวัดโพธิ์ แต่มีความทันสมัยกว่าหลายเท่านอกจากกระบองเป็นอาวุธยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง โทรศัพท์มือถือ วิทยุติดตามตัว ฟังซาวด์อะเบาต์ มีหูฟังเสียบที่หูทั้ง 2 ข้าง
สวมแว่นตาดำ แยกเขี้ยวยิงฟันยืนรักษาการอยู่หน้าประตูวัด ขณะที่ยักษ์อีกตนไม่สนใจนั่งเอามือเท้าคางหลับตาพริ้ม น้ำลายยืด 2 หยด ป้องกันการรบกวนถึงขนาดเขียนข้อความ "อย่ารบกวน" ติดไว้ใต้ฐานที่นั่ง แค่นี้ก็เรียกรอยยิ้มเพิ่มดัชนีความสุขให้กับคนที่มาเที่ยววัดได้แล้ว


นอกจากยักษ์ตัวผู้ที่ยืนเป็นยามรักษาการณ์และเสือที่อ้าปากดุดันแล้วยังมีนางยักษ์ "ผีเสื้อสมุทร" ยืนเปลือยท่อนบน ยกมือกุมหน้าอกกลมโตห้อยโต้งเตง

เผชิญหน้ากับ "สุดสาคร" ขี่ม้านิลมังกรตัวสีเขียวแล้วชี้ไม้เท้าไปที่ผีเสื้อสมุทร ในวรรณคดีเรื่อง "พระอภัยมณี" บริเวณใกล้ๆกันก็มี รูปปั้น "ตือ ป๊วยก่าย" ยืนพุงป่องเหงื่อตก ในมือถือปิ่นโต เสียบหูฟังเพลงจากเครื่องเล่นเอ็มพี 3 จากเอวที่มีลูกระเบิดผูกติดอยู่ ดึงดูดความสนใจจากผู้ที่พบเห็นแม้ว่าจะยังไม่สมบูรณ์ดีเพราะช่างทาสีกำลังบรรจงตกแต่งให้สวยงามมีสีสันมากขึ้น ขณะที่ "เห้งเจีย หรือ หงอคง" ตัวละครเอกในวรรณคดีจีนเรื่อง "ไซอิ๋ว" กำลังถูกหล่อและปั้นขึ้นมาโดยมีพระสวมจีจรสงฆ์ กำลังใช้ปูนปั้นปาดไปตามตัวไซอิ๋วที่ทำท่ายืนคุยโทรศัพท์มือถือส่วนตัว  ชวนให้นึกถึง "พระถังซัมจั๋ง" จะพอใจหรือไม่ แต่ไซอิ๋วคงจะดีอกดีใจที่ไม่ต้องเสียเวลาเหาะไปมาอีกต่อไป(ฮา)


พระถาวโร ภิกขุ หรือ "พระตี๋" พระช่างฝีมือผู้ที่ยืนปั้นรูปไซอิ๋วและรูปปั้นต่างๆที่เห็นอยู่เต็มวัด เล่าให้ฟังว่า

เริ่มจากการปั้นหัวเสือและหัวมังกรต้องใช้เวลา  2 เดือน กว่าจะเสร็จ จากนั้นก็เริ่มปั้นยักษ์ปั้นตัวละครในวรรณคดี แต่จะมีท่าทางที่ตลกขบขัน เพราะทางวัดโดยพระครูสงบ รองเจ้าอาวาสมีแนวคิดที่อยากจะให้รูปปั้นเหล่านี้ดึงดูดคนมาวัดเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะพวกเด็กๆ


อดสงสัยในฝีมือ "พระตี๋"ไม่ได้จึงเข้าไปสอบถามได้ความว่า ไม่ได้ร่ำเรียนมาจากสถาบันไหน

เรียนจบ ม.3 ทำอาชีพขายประกัน และเป็นนายหน้าหาผู้รับเหมาไปต่อเติมบ้านบ้าง แต่งานปั้นนี้ฝึกหัดเอาเองในวัดนี้ ลองปั้นไปเรื่อยๆ ช่วยๆกันนำเอาปูนมาผสมกับใยมะพร้าว แล้วสร้างโครงเหล็กกับตาข่ายขึ้นรูปก่อนโบกปูนปั้นให้เป็นรูปเป็นร่าง ตัวเล็กก็ใช้เวลาปั้น 10-15 วัน ปั้นมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้วที่เริ่มเข้ามาบวชเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2551 จากเดิมที่คิดว่าจะบวชแค่ 29 วัน แต่เจ้าอาวาสขอให้อยู่ต่อจึงต้องอยู่มาจนถึงตอนนี้ทำให้วัดโล่งๆได้มีอะไรมาประดับตกแต่ง


จากนั้นพระตี๋ก็ชี้ให้เดินไปที่ท่าน้ำซึ่งมียักษ์ "ไมเคิล ดอสัน" นั่งซดก๋วยเตี๋ยวมีกระป๋องโค้กวางไว้ด้านหน้า เป็นสัญลักษณ์บอกว่าในส่วนริมคลองนี้คือตลาดน้ำขนาดย่อม

หรือจะเรียกว่าตลาดน้ำชุมชนก็ว่าได้ เพราะดูจากขนาดตลาดเมื่อเทียบกับตลาดน้ำดำเนินสะดวกหรือตลาดน้ำอัมพวาแล้วตลาดน้ำแห่งนี้เล็กไปถนัดตา แต่ก็อุดมไปด้วยสินค้าจากชาวสวนเมืองนนท์ ทั้งผักและผลไม้พื้นบ้าน มาวางกองขายกันกำละ 5-10 บาทเท่านั้นเอง และยังมีแม่ค้าที่พายเรือมาก๋วยเตี๋ยว หมูสเต๊ะ ฯลฯ และยังมีต้นไม้สวยๆและต้นไม้หายากมาขายอีกด้วย 


" อิ่มบุญ อิ่มท้อง อิ่มใจ " กลับบ้าน


ใครที่สนใจอยากไปไหว้พระสะเดาะเคราะห์ที่วัดนี้สามารถสอบถามรายละเอียดและเส้นทางได้ที่ โทร.0-2595-1851, 08-1921-0946


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์