เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 3 ม.ค. เต่ามะเฟืองขนาดใหญ่อายุประมาณ 40 ปี
น้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัม ขนาดลำตัวยาว 2.07 เมตร กว้าง 1.10 เมตร ขึ้นวางไข่บริเวณชายทะเลหาดท้ายเหมือง ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ลป.3 (ปาง) ประมาณ 800 เมตร จำนวน 113 ฟอง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปีหาดท้ายเหมืองพบว่า เป็นตัวเดียวกันกับที่เคยขึ้นวางไข่เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ครั้งนั้นเต่าตัวนี้วางไข่จำนวน 99 ฟอง คาดว่าจะฝักเป็นตัวออกสู่ทะเลประมาณวันที่ 24 ก.พ. สำหรับไข่ชุดใหม่จำนวน 113 ฟอง เจ้าหน้าที่คาดว่าจะฝักเป็นตัวประมาณวันที่ 3 มี.ค. และคาดว่าเต่าตัวนี้จะขึ้นมาวางไข่อีกครั้งหนึ่งภายใน 10 วันข้างหน้านี้ หรือประมาณวันที่ 12 ม.ค.
นายวัฒนา พรประเสริฐ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมืองกล่าวว่า ปัจจุบันพบว่าเต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่ที่หาดท้ายเหมือง จ.พังงา เป็นประจำทุกปีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย
แต่ก็ยังน่าวิตกว่าอาจสูญพันธุ์ในเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากปริมาณการขึ้นวางไข่ของเต่ามะเฟืองลดลงมาก ประกอบกับยังมีผู้นิยมรับประทานไข่เต่าทะเลอยู่ ฉะนั้น จึงเห็นว่านักท่องเที่ยวและราษฎรในพื้นที่ทุกคนควรเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเต่าทะเลให้อยู่คู่หาดท้ายเหมืองต่อไปตราบนานเท่านาน ด้วยการไม่ลักลอบเก็บไข่เต่าทะเล
“สำหรับชายทะเลหาดท้ายเหมืองนั้น ถือว่าเป็นแหล่งวางไข่ของเต่าทะเล ซึ่งเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์หลายชนิด ได้แก่ เต่ามะเฟือง เต่าตนุ เต่าหญ้า โดยเฉพาะเต่ามะเฟืองจะพบขึ้นมาวางไข่มากที่สุดเป็นประจำทุกปี จากสถิติย้อนหลังตั้งแต่ปี 2546 ถึงปัจจุบันพบว่าเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่ที่หาดท้ายเหมือง จำนวน 17 ครั้ง ได้ไข่เต่า จำนวน 9,909 ฟอง ฝักเป็นตัว 869 ตัว คิดเป็นร้อยละ 8.96 สำหรับเต่าหญ้านั้นยังไม่พบสถิติขึ้นมาวางไข่ในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา ส่วนเต่าตนุนั้น พบขึ้นวางไข่เพียง 3 ครั้งในรอบ 7 ปี ได้ไข่เต่า 348 ฟอง ฝักเป็นตัว จำนวน 226 ตัว คิดเป็นร้อยละ 64.94 สาเหตุสำคัญของจำนวนเต่าทะเลที่ลดจำนวนลงอย่างน่าเป็นห่วงก็เนื่องจากการทำประมง และการขยายตัวของธุรกิจท่องเที่ยวที่ทำให้พื้นที่วางไข่ของเต่าทะเลถูกรบกวนจากการก่อสร้าง รวมทั้งนักท่องเที่ยวด้วย” นายวัฒนากล่าว