บรรยากาศทางการเมืองที่คลี่คลายสู่ภาวะปกติมากขึ้นตามลำดับ และสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่เริ่มมีสัญญาณบวก อีกทั้งการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ก็สามารถควบคุมได้ในระดับหนึ่ง จึงมีความเป็นไปได้ว่าบรรยากาศการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ปี 2553 ภายในประเทศน่าจะเป็นไปในลักษณะที่คึกคักกว่าปีก่อน
จากผลการสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทย เกี่ยวกับพฤติกรรมการฉลองปีใหม่ต้อนรับปี 2553 ของคนกรุงเทพฯ ช่วงระหว่างวันที่ 7-15 ธันวาคม 2552 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 588 ราย ที่มีอายุระหว่างอายุ 15-65 ปี (จากรายงานสถิติจำนวนประชากรตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย พบว่า จำนวนประชากรกรุงเทพมฯอายุ 15-65 ปี มีด้วยกันประมาณ 4 ล้านคน) พบว่า สัดส่วนของคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งมีการตระเตรียมกิจกรรมต่างๆเพื่อร่วมเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ปี 2553 คิดเป็นสัดส่วนเกินกว่าร้อยละ 80 โดยมีทั้งการเตรียมซื้อของขวัญปีใหม่เพื่อมอบให้แก่บุคคลอันเป็นที่เคารพรัก การเตรียมโปรแกรมท่องเที่ยวหรือกลับบ้านต่างจังหวัด การนัดหมายญาติมิตรเพื่อนฝูงเพื่อจัดงานเลี้ยงฉลอง รวมไปถึงการเตรียมการเพื่อการทำบุญไหว้พระ/สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นสิริมงคล เป็นต้น
น่าสังเกตว่า การใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯเพื่อการเฉลิมฉลองต้อนรับปีใหม่ปี 2553 มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นจากราคาสินค้าที่สูงขึ้น ตามต้นทุนด้านน้ำมันที่มีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลการสำรวจครั้งนี้พบว่า คนกรุงเทพฯส่วนใหญ่ตั้งงบประมาณเพื่อเฉลิมฉลองต้อนรับปีใหม่ใกล้เคียงกับปีก่อน โดยหลายรายได้รับผลกระทบจากปัญหาภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง
คนกรุงเทพฯส่วนใหญ่จึงยังคงระมัดระวังการใช้จ่ายต่อเนื่องจากปี 2552 ซึ่งคาดว่าการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปี 2553 ของคนกรุงเทพฯ มีแนวโน้มจะก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนประมาณ 17,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่หดตัวถึงกว่าร้อยละ 10 โดยส่วนใหญ่เป็นการใช้จ่ายเพื่อกิจกรรมเลี้ยงสังสรรค์ ตามมาด้วยการใช้จ่ายเพื่อการจับจ่ายซื้อของขวัญ การใช้จ่ายเพื่อการเดินทางและที่พัก รวมถึงการใช้จ่ายเพื่อการทำบุญไหว้พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์