วันนี้ (23 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส ว่า บรรยากาศโดยทั่วไปท้องฟ้ายังคงมีเมฆฝนครึ้มแพร่ปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ และมีฝนตกลงมาเป็นช่วง ๆ ไม่หนักมาก ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก แม่น้ำสายหลักซึ่งล้นตลิ่งอยู่แล้ว มีปริมาณระดับน้ำท้วมขังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนราษฎรขยายเป็นวงกว้างกินพื้นที่ 6 อำเภอ คือ สุไหงโก-ลก แว้ง สุคิริน จะแนะ ระแงะ และตากใบ ซึ่งมีระดับน้ำท่วมขังแยกเป็น 2 จุด
คือ 1.บริเวณตลอดแนวริมตลิ่งของแม่น้ำสุไหงโก-ลก มีระดับน้ำท่วมขังสูง 100-130 ซ.ม. 2.บริเวณที่ราบลุ่มเป็นแอ่งกระทะ และนาข้าว มีระดับน้ำท่วมขังสูง 50-80 ซ.ม. ทำให้ราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 52 หมู่บ้าน 15 ตำบล 6 อำเภอ ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะน้ำท่วมครั้งนี้ จำนวน 3,098 ครัวเรือน รวม 10,708 คน พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมขัง 3,312 ไร่ ถนนภายในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมขัง และกัดเซาะได้รับความเสียหาย 19 สาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปสำรวจความเสียหาย เพื่อเตรียมจัดเงินงบประมาณให้การช่วยเหลือราษฎร และฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภค เป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 6,650,000 บาท
นอกจากนี้ จากภาวะน้ำท่วมติดต่อกันระลอกที่ 4 เป็นเวลานาน 4 วัน ยังส่งผลให้ราษฎรได้รับผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะเด็กเล็ก และคนชรา ที่อาศัยอยู่ตามแหล่งชุมชนต่าง ๆ ตลอดแนวริมตลิ่งของแม่น้ำสุไหงโก-ลก เนื่องจากขยะมูลฝอย และซากสัตว์ที่เน่าเปื่อยได้ลอยมากับกระแสน้ำ เข้าไปติดในบ้านเรือนราษฎร และบริเวณใกล้เคียง ส่งกลิ่นเหม็นฟุ้ง จนเด็กเล็ก และคนชราสูดดมจนป่วยไปตาม ๆ กัน อย่างไรก็ตาม ราษฎรยังโชคดีที่ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ได้ช่วยกันนำแผ่นไม้กระดานมาสร้างทางเดินให้ตามชุมชนต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นทางเดินแทนถนนที่ถูกน้ำท่วมขังในการเดินทางไปลงเรือ เพื่อเดินทางไปทำงาน และติดต่อกับโลกภายนอก