ส่วนการบินไทยซึ่งบินจาก กรุงเทพฯ - เชียงราย ก็ต้องเสียเวลากว่า 20 นาที จนกว่าจะสามารถนำเครื่องลงได้ในเวลาประมาณ 10.30 น. และสำหรับสายการบิน SGA.ซึ่งบินจากเชียงใหม่-เชียงราย ในช่วงเช้าของวันเดียวกัน ก็ใช้เวลาบินวนอยู่ครู่ใหญ่ จึงสามารถนำเครื่องลงจอดได้อย่างปลอดภัย นายยุทธนา เปิดเผยต่ออีกว่า ทางการท่าอากาศยานเชียงรายได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์หมอกลงจัดไว้ดีแล้ว แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่อย่างใด ได้ตรวจเช็คอุปกรณ์ ไฟส่องสว่างในสนามบิน พร้อมทั้งอุปกรณ์สื่อสารอื่น ๆ ทั้งนี้หากสภาพทัศนวิศัยบนท้องฟ้าต่ำกว่า 1,000 เมตร ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เช้านี้จัดได้ว่าเจอสภาพอากาศที่หนักมาก แต่ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บรรดาผู้ใช้รถใช้ถนนในเชียงราย ช่วงเช้าต้องเปิดไฟและขับรถช้าๆ เนื่องจากในช่วงเช้าหมอกลงจัดมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรต้องออกปฏิบัตหน้าที่อย่างหนักเพื่อป้องกันอุบัตเหตุในช่วงเวลาเร่งด่วน และในช่วง 10.00 น. หลังจากแดดออกแล้ว หมอกก็เริ่มจางลงกลับสู่สภาพปกติ
ด้านนายยุทธนา จิตรอบอารีย์. ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงราย เปิดเผยว่า สภาพอากาศในช่วง 07.00 น.ของเช้านี้ หมอกลงจัดมาก จากการรับรายงานจากหอบังคับการบินทราบว่า ทัศนวิสัยบนท้องฟ้าเหลือเพียงไม่ถึง 200 เมตร ทำให้สายการบิน แอร์แอเซียที่บินรับผู้โดยสารจากกรุงเทพฯ ปลายทางสนามบินเชียงราย ไม่สามารถลงจอดตรงตามเวลา 08.45 น.ได้ นักบินต้องบินวนอยู่หลายรอบเป็นเวลานานกว่า 30 นาที แต่ก็ไม่กล้าตัดสินใจนำเครื่องลง เนื่องจากทัศนวัสัยแย่มากหมอกลงจัดจนไม่สามารถมองเห็นแนวไฟของสนามบิน นักบินจึงต้องตัดสินใจนำเครื่องบินไปสนามบินเชียงใหม่ เพื่อลงจอดเติมน้ำมันและจอดรอ จนเวลาประมาณ 11.30 น.จึงสามารถบินนำผู้โดยสารประมาณ 100 ท่านบินกลับมาลงที่สนามบินเชียงรายได้ตามปกติ
เชียงรายหมอกลงจัด เครื่องบินลงจอดไม่ได้
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 22 ธ.ค ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงรายว่า สภาพหมอกในตอนเช้าลงหนามาก จากรายงานของอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด โดยในช่วงวันที่ 24-25 ธ.ค. จะมีฝนบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาค และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณที่มีหมอกทำให้ ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลงผู้ที่ใช้รถใช้ถนนในช่วงเช้าต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ ควรเปิดไฟหน้าและสังเกตุป้ายเตือนตลอดเวลา