สหรัฐ สเปน และโปแลนด์ เผชิญพายุหิมะพัดกระหน่ำครั้งเลวร้ายในรอบหลายปี ก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลคริสต์มาส
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาสหรัฐประกาศเตือนภัยพายุหิมะที่กำลังเกิดขึ้นในพื้นที่แถบชายฝั่งตะวันออกติดมหาสมุทรแอตแลนติก ไล่ตั้งแต่รัฐแคโรไลนาจนถึงโรด ไอส์แลนด์ จนส่งผลกระทบต่อผู้คนที่อยู่ระหว่างการเตรียมเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส ทำให้ประชาชนต่างพากันกักตุนข้าวของเครื่องใช้จำเป็นไว้ในบ้าน ในกรณีที่สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก เนื่องจากหิมะอาจตกหนักหนาถึง 50 เซนติเมตร และกระแสไฟฟ้าอาจดับ เดินทางไปไหนมาไหนลำบาก
ส่วนทางการเมืองฟิลาเดลเฟียประกาศ ภาวะฉุกเฉิน โรงเรียนถูกประกาศหยุดตลอดสุดสัปดาห์ และที่รัฐฟลอริดา
มีประกาศเตือนภัยเตรียมรับมือพายุฝนฟ้าคะนอง และเกิดน้ำท่วม นอกจากนี้ หิมะที่ตกในอัตราชั่วโมงละ 2 นิ้ว ทำให้ท่าอากาศยานเรแกนในกรุงวอชิงตันต้องปิดให้บริการ ชั่วคราว และคาดว่า พายุหิมะจะพัดผ่านรัฐที่อยู่ทางตอนกลางของมหาสมุทรแอตแลนติกโดยกระจายไปถึงเมืองทางเหนือ อย่างฟิลาเดลเฟียและนครนิวยอร์กในช่วง สุดสัปดาห์
เช่นเดียวกับที่โปแลนด์เผชิญสภาพ อากาศหนาวจัด อุณหภูมิลบ 14 องศาเซลเซียส ถนนลื่น เกิดอุบัติเหตุมากกว่า 112 ครั้ง
โดยพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ของโปแลนด์ เผชิญสภาพอากาศหนาวจัดติดต่อกันเป็นวันที่ 3 พื้นถนนเต็มไปด้วยหิมะ ทำให้ถนนลื่น บรรดาคนขับรถพากันบ่นเจ้าหน้าที่ขาดการโรยเกลือและโรยกรวดบนถนน เพื่อลดการลื่น หลายคนหยุดใช้รถยนต์ ส่วนตัว หันไปใช้ระบบขนส่งมวลชนรถไฟ ทำให้รถไฟแต่ละขบวนมีผู้โดยสารแน่นขนัด ส่งผลให้รถไฟบางขบวนต้องล่าช้านานกว่า 2 ชั่วโมง
ขณะที่สเปนเผชิญสภาพอากาศหนาวจัด
โดยเฉพาะพื้นที่ทางภาคเหนือของประเทศ ที่จังหวัดอัสดูริอัส ทำให้ทางการต้องนำทรายมาโรยไว้ตามพื้นถนนที่กลายเป็นน้ำแข็งเพื่อป้องกันประชาชนลื่นล้มจนเกิด อันตราย ท่ามกลางคำเตือนว่า อุณหภูมิจะลดต่ำลงถึงลบ 20 องศาเซลเซียส.