อย.ชี้ “อมยิ้มเรืองแสง” มีส่วนผสมของ “ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์-ฟีนิลออกซาเลตเอสเทอร์-สารเรืองแสง” ระบุทำให้แสบท้อง คลื่นไส้ อาเจียน กินมากอาจถึงขั้นช็อกตายได้ เตรียมประสาน ปคบ.บุกจับร้านค้ากลางกรุง
เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ในวันนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ อย. และตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ออกกวดจับลูกอมเรืองแสง ที่อยู่ในตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ และพื้นที่ชายแดนระหว่างประเทศ เนื่องจากเบื้องต้นพบว่า ลูกอม หรืออมยิ้มเรืองแสง ผลิตจากประเทศจีน ไม่มีฉลากกำกับเป็นภาษาไทย หากนำมาจำหน่ายจะเข้าข่ายความผิดสินค้าไม่มีฉลาก มีโทษปรับ 3 หมื่นบาท และจำหน่ายอาหารมีสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกตั้งแต่ 2 เดือน-2 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-2 หมื่นบาท
เลขาธิการ อย. กล่าวต่อว่า ลูกอม หรืออมยิ้มเรืองแสง ถือว่า เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะเด็ก เพราะหากหักบริเวณก้านเรืองแสงออกจากกัน แล้วบริโภคของเหลวที่อยู่ในก้านลูกอม หรืออมยิ้มเข้าไป จะทำปฏิกิริยากับกระเพาะอาหาร ทำให้แสบท้อง เกิดอาการคลื่นไส้ และอาเจียนร่วมด้วย ในกรณีที่รับประทานเข้าไปมากอาจทำให้ถึงขั้นช็อก เป็นอันตรายต่อชีวิต ที่น่าเป็นห่วงคือเด็กเล็ก ๆ ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์อาจกลืนกินสารดังกล่าวเข้าไปได้ หากก้านอมยิ้ม หรือลูกอมรั่ว
นพ.พิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ทาง อย.ได้ส่งลูกอมดังกล่าวให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบ คาดว่า สัปดาห์หน้าจะทราบผลการตรวจสอบ ทั้งตัวอมยิ้ม ลูกอม และแท่งเรืองแสง แต่เท่าที่ได้รับรายงานเบื้องต้น ระบุว่า ในก้านของลูกอมมีสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ และสารฟีนิลออกซาเลตเอสเทอร์ และสารเรืองแสง (fluorescent dye) สีต่าง ๆ เมื่องอแท่งเรืองแสงให้กระเปาะแก้วที่อยู่ภายในหัก สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์จะไหลออกมา ทำปฏิกิริยากับสารฟีนิลออกซาเลตเอสเทอร์ จะมีการปลดปล่อยพลังงานจำนวนหนึ่งออกมา พลังงานที่เกิดขึ้นจะไปกระตุ้นโมเลกุลของสารเรืองแสงที่บรรจุอยู่ในแท่งเรืองแสง ให้เกิดปรากฏการณ์เรืองแสงขึ้น.