กทม.จ่อวิกฤติ เจ้าพระยาปริ่ม

หลายจังหวัดภาคกลางโดนน้ำท่วมแล้ว โดยเมื่อวันที่ 26 ก.ย. ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา บริเวณวัดกษัตราธิราชวรวิหาร ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งกรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานและเป็นวัดหลวงอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีน้ำไหลเข้าท่วมวัด พระเณรกว่า 30 รูปต้องช่วยกันขนกระสอบทรายนับพันถุงกั้นริมฝั่งและอุดท่อระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำไหลย้อนกลับเข้ามา

นายสมชาย ชุ่มรัตน์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า มี 10 อำเภอที่น้ำท่วมชุมชนริมแม่น้ำ และ สั่งปิดโรงเรียนไปแล้ว 7 แห่ง ปีนี้น้ำเหนือปริมาณมากและมีฝนตกหนักอีกทั้งน้ำทะเลหนุนเชื่อว่าปริมาณน้ำไม่น้อยกว่าปี 2545 ที่เคยท่วมหนัก ได้ประชุมเจ้าหน้าที่ประสานงานไปยังกรมชลประทานและเขื่อนเจ้าพระยาที่ จ.ชัยนาทให้ระบายน้ำเหนือเขื่อนไปทางทิศตะวันตกออกแม่น้ำท่าจีนไปยังสุพรรณบุรีและทางคลองชัยนาทมโนรมย์ไปยัง อ.ท่าเรือออกคลองด่านที่ จ.สมุทรปราการ เพื่อให้น้ำเหนือเขื่อนเหลือน้อยที่สุด แต่เส้นทางดังกล่าวไม่สามารถระบายน้ำได้แล้ว เพราะจะกระทบต่อสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งอยู่ท้ายน้ำและจะเปิดดำเนินการในวันที่ 28 ก.ย. อย่างไรก็ตาม จะแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ ช่วยเหลือต่อไป

ที่ จ.อุทัยธานี เจ้าหน้าที่ต้องระบายน้ำออกจากเขื่อนวังร่มเกล้า อ.ทัพทัน เพราะรับน้ำไม่ไหวเกรงเขื่อนพังส่งผลให้น้ำไหลท่วมที่นาในหลายตำบลของ อ.เมืองอุทัยธานี ขณะเดียวกันต้องปิดประตูน้ำที่บ้านเกาะเทโพ ต.เกาะเทโพ ป้องกันไม่ให้น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี สำหรับ จ.อ่างทอง เจ้าหน้าที่ออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเขต อ.เมืองอ่างทอง ไชโย แสวงหา และป่าโมก ด้านเทศบาลเมืองอ่างทองออกประกาศเตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน ที่ จ.ลพบุรี เกิดน้ำท่วมบางตำบลในเขต อ.เมืองลพบุรี พร้อมกันนั้นเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เริ่มระบายน้ำออกเพื่อเตรียมรับน้ำจากภาคเหนือ

ส่วน จ.นครสวรรค์ ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแสงช่วยกันนำกระสอบทรายนับหมื่นใบกั้นเป็นแนวริมแม่น้ำน่านตลอดระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร เนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นและกระแสน้ำซัดสะพานบนถนนสายชุมแสง-เก้าเลี้ยวขาด ส่วนถนนสายนครสวรรค์-ชุมแสงน้ำท่วมเป็นระยะ พนังกั้นน้ำบางช่วงพัง น้ำทะลักท่วม 2 ข้างทาง ชาวบ้านต้องขนข้าวของมาตั้งเต็นท์อยู่ข้าง สภ.อ.ชุมแสง

ด้านกรุงเทพมหานคร นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย พล.ต.ธรรมรัชต์ เจริญกุล ผอ.สำนักงานสนับสนุนหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา พ.อ.พรพัฒน์ จันทร์เพียร ผอ.กองกิจการพลเรือน ตัวแทนจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ลงเรือตรวจแม่น้ำเจ้าพระยาจากสะพานพระปินเกล้าถึงสะพานซังฮี้

หลังจากนั้น นายอภิรักษ์เปิดเผยว่า แม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำสูงและไหลเชี่ยว ปริมาณน้ำ 2,337 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ยังต่ำกว่าระดับ 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีซึ่งเป็นระดับที่ กทม.รับมือได้ ซึ่งน้ำทะเลจะหนุนสูงสุดในวันที่ 28 ก.ย. ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำตามจุดสำคัญและตั้งกระสอบทรายสูง 2 เมตรริมแม่น้ำ ถ้าไม่มีฝนตกหนักเชื่อว่าไม่มีปัญหา แต่หากมีน้ำทะเลหนุน น้ำเหนือ และน้ำฝน ก็ได้เตรียมกำลังคนไว้คุมเครื่องสูบน้ำและอุดกระสอบทรายที่รั่วเพื่อแก้ไขสถานการณ์

ภาคเหนือที่ จ.พิจิตร ซึ่งประสบอุทกภัยขยายวงกว้างออกไปอีกในเขต อ.เมืองพิจิตร สามง่าม โพธิ์ประทับช้าง โพทะเล กิ่ง อ.บึงนาราง ประชาชนเดือดร้อนอย่างมาก ทหารจากกองบัญชาการช่วยรบที่ 3 นำถุงยังชีพออกแจก จ่ายประชาชนและช่วยวางกระสอบทรายกั้นน้ำ ขณะเดียวกันมีรายงานผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ชื่อนายสุด ไชยสิทธิ์ อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 หมู่ 2 ต.สายคำโห้ อ.เมือง พิจิตร ออกไปจับปลากลางทุ่งนาหลังบ้านที่น้ำท่วมสูงแล้วเกิดหกล้มจมน้ำตาย

ขณะที่ จ.พิษณุโลก น้ำท่วม อ.พรหมพิราม อ.เมืองพิษณุโลก โดยเฉพาะ อ.บางระกำ เสียหายมากที่สุด นายพิพัฒน์ วงศาโรจน์ ผวจ.พิษณุโลก ประกาศเตือนประชาชนใน อ.บางระกำว่าระดับน้ำจะสูงขึ้นอีก เนื่องจากวันที่ 1-2 ต.ค.นี้ จะมีน้ำจาก อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ไหลมาถึง ประกอบกับมีฝนตกหนักและเขื่อนสิริกิติ์อาจระบายน้ำออกมา

นายแก้ว แต้อ๋อนจิต อายุ 48 ปี ราษฎรบ้านหมู่ 8 ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ หนึ่งในผู้ประสบอุทกภัยกล่าวว่า ต้องปลูกเพิงพักชั่วคราวอยู่บนถนนทางเข้าหมู่บ้านตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย. เมื่อรู้ว่าจะมีน้ำมาจาก จ.สุโขทัย อีกระลอก ทำให้ทุกคนนอนไม่หลับเครียดจัด อยากให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดูแลและเอาใจใส่อย่าทอดทิ้งประชาชนที่เดือดร้อน

ส่วน จ.สุโขทัย น้ำท่วมในเขต อ.ศรีสำโรง สวรรคโลก และกงไกรลาศ สำหรับ อ.เมืองสุโขทัย มีน้ำไหลท่วมบางพื้นที่ในเขตเทศบาลเมือง ถนนจรดวิถีถ่อง ซึ่งเป็นเส้นทางไปภาคเหนือน้ำท่วมสูง 30 เซนติเมตร เป็นระยะทาง 500 เมตร ขณะที่ จ.ตาก ประชาชนหลายตำบลของ อ.สามเงา และบ้านตากต้องอาศัยอยู่ข้างถนนเพราะแม่น้ำวังล้นท่วมพื้นที่ ถนนหลายสายใช้ไม่ได้ บางตำบลโดนตัดไฟฟ้า

ที่กรมอุตุนิยมวิทยา นางมณีรัตน์ ผลิพัฒน์ รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นายศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงศ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติธรรมชาติ โดยนายศุภฤกษ์กล่าวว่า เพื่อร่วมมือสนับสนุนข้อมูลพยากรณ์อากาศ การเตือนภัย และข่าวสารป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติธรรมชาติ และให้ความรู้ด้านอุตุนิยมวิทยาแก่ข้าราชการ ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย

นายศุภฤกษ์กล่าวต่อไปว่า ในแต่ละท้องถิ่นจะมีเจ้าหน้าที่หรือมิสเตอร์เตือนภัย 2 คน ส่วนที่ห่วงกันว่าในวันที่ 28 ก.ย. อาจมีน้ำท่วมกรุงเทพมหานครนั้น เป็นเพราะร่องฝนพาดผ่านภาคกลาง ทำให้มีฝนมากขึ้น ประกอบกับน้ำเหนือไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา แต่เชื่อว่าไม่กระทบกับการเปิดสนามบินสุวรรณภูมิ

สำหรับรายงานสภาพอากาศนั้นกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า หย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนเข้าประเทศพม่าแต่ยังทำให้ภาคเหนือ ภาคกลางด้านตะวันตก ภาคตะวันออกและภาคใต้ของไทยมีฝนตกหนัก ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณพื้นที่ลุ่มและใกล้ทางน้ำไหลของ จ.ตาก เชียงใหม่ สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา ปราจีนบุรี สระแก้ว เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ต้องระวังอันตรายจากฝนตกและน้ำท่วมฉับพลัน

ทุ่มครึ่งวันเดียวกัน เกิดเหตุฝนตกหนักถล่มกรุงเทพฯในหลายพื้นที่ เช่น บางพลัด ลาดพร้าว ถนนรัชดาภิเษก ถนนพระราม 9 การจราจรอยู่ในขั้นวิกฤติ โดยเฉพาะถนนสายสำคัญเชื่อมติดกัน อาทิ ถนนรัชดาภิเษก ถนนพระราม 9 และถนนพหลโยธิน บางจุดน้ำท่วมเอ่อล้นขึ้นฟุตปาท ตามทางมีรถยนต์ขนาดเล็กจอดเสีย เจ้าหน้าที่ ตำรวจจราจรต้องทำงานอย่างหนัก

โดยเฉพาะตำรวจจราจร และสายตรวจ สน.โชคชัย พ.ต.อ.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผกก.สน. โชคชัย สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ขับรถเข้าที่พักอาศัยโดยเฉพาะในซอยโชคชัย 4 และซอยลาดพร้าว 71 ซึ่งเป็นชุมชนและหมู่บ้านขนาดใหญ่หลายแห่ง ทางเข้าหมู่บ้านบางช่วงน้ำท่วมสูงเกินเข่า ตำรวจต้องปิดการจราจร ทำให้ประชาชนต้องจอดรออยู่ในปัมน้ำมัน หรือริมถนน ระหว่างรอการระบายน้ำจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ