จากกรณีบ้านอาถรรพ์เกิดเหตุประหลาดภายในบ้านเลขที่ 167 บ้านหนองบัว หมู่ที่ 6 ต.ตะแบกบาน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา
ของนางนิด รวมครบุรี อายุ 28 ปี ตลอดสองเดือนที่ผ่านมาได้เกิดไฟลุกไหม้สิ่งของภายในบ้านกว่า 10 ครั้งโดยไม่ทราบสาเหตุสร้างความประหลาดใจและหวาดผวาให้แก่ครอบครัว "รวมครบุรี" รวมถึงเพื่อนบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียงเป็นอย่างมากจนต้องหอบลูกหลานหนีไปอาศัยพักพิงกับญาติที่จังหวัดระยองตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้ว
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.นายแดนชัย พลครบุรี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหนองบัว หมู่ 7
เปิดเผยถึงบ้านหลังดังกล่าวว่ายังคงถูกปิดเงียบและไม่มีใครแวะเวียนเข้าไปใกล้ในช่วงเวลาค่ำคืน มีเพียงอาสาสมัครตำรวจบ้านที่ตนได้จัดกำลังเวรยามไปเฝ้าดูทุก 1 ชั่วโมง เนื่องจากเกรงว่าบ้านหลังนี้จะเกิดเพลิงไหม้ลุกลามเสียหาย ทั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่ต่างวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา โดยเฉพาะต้นไทรอายุหลายร้อยปีที่ตั้งอยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าวนั้นเป็นที่สนใจและผู้ที่มีความเชื่อด้านไสยศาสตร์ต่างพากันเชื่อว่าต้นไทรต้นนี้น่าอาจจะมีสิ่งลี้ลับซ่อนเร้นอยู่และทำให้เกิดอาถรรพ์เหตุการณ์ไฟไหม้ประหลาดนี้ขึ้น
นายแดนชัย กล่าวว่า ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะเริ่มแพร่ขยายออกไปยังหมู่บ้านใกล้เคียงบ้างแล้วก็อยากให้หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญจากสถาบันต่างๆ หน่วยงานใดก็ได้เดินทางมาตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง
เพื่อที่ชาวบ้านจะได้รับทราบข้อเท็จจริงและไม่หวาดกลัวอีกต่อไป ไม่ใช่อ้างแต่หลักทฤษฎีเอามาลบล้างความเชื่อของชาวบ้าน แต่ไม่มีการพิสูจน์แล้วชาวบ้านจะเลิกตื่นตระหนกได้อย่างไร นายอดิศักดิ์ ทองไข่มุกต์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมาได้รับร้องเรียนจากประชาชนทั่วประเทศ 7 ราย ขอให้ตรวจสอบพื้นดินที่ตั้งบ้านเรือน เนื่องจากพบว่าพื้นและผนังบ้านมีอุณหภูมิสูงขึ้นผิดปกติ ส่วนใหญ่สงสัยว่าอาจเกิดจากสภาวะโลกร้อนที่ทั่วโลกกำลังตื่นตัว
"หลังรับร้องเรียนได้ส่งนักธรณีวิทยาไปตรวจสอบอย่างละเอียดทันที จากการทำงานของนักธรณีวิทยาไม่พบความผิดปกติใดๆ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ขอเจาะผนังบ้านซึ่งเป็นปูนออก เพื่อดูความผิดปกติภายใน พบว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดความร้อนขึ้นที่พื้นและผนัง เกิดจากกระแสไฟที่รั่วออกมาจากสายไฟรอบบ้านเข้าสู่โครงเหล็กรอบตัวบ้าน ทำให้อุณหภูมิบนผนังและพื้นเพิ่มขึ้นสูงถึง 50 องศาเซลเซียส หลังพบสาเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่แจ้งให้เจ้าของบ้านปรับปรุง แก้ไขระบบไฟฟ้าใหม่ ให้ปลอดภัยมากขึ้น จนบ้านเข้าสู่สภาพปกติ" นายอดิศักดิ์ กล่าว
อธิบดีกรมทรัพยากรธรณีกล่าวต่อว่า อยากฝากเตือนประชาชนว่า หากพบว่ามีความร้อนเกิดขึ้นกับตัวบ้าน
อยากให้ตรวจสอบการติดตั้งระบบไฟฟ้าภายในบ้านก่อน เพราะอาจติดตั้งผิด มีไฟรั่วเข้าผนังและพื้นบ้านได้ ซึ่งไม่เพียงจะทำให้เกิดความร้อนยังอาจเกิดอันตรายถึงชีวิต หากแก้ไขแล้วบ้านยังร้อนอยู่ กรมทรัพยากรธรณียินดีส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีเหตุการณ์ไฟไหม้บ้านประชาชนรายหนึ่งใน จ.นครราชสีมา หลายครั้งโดยไม่ทราบสาเหตุ นายอดิศักดิ์กล่าวว่า อาจจะเป็นกรณีเดียวกันนี้ เพราะหากอุณหภูมิผนังบ้านร้อนขึ้น ประกอบกับฤดูหนาวอากาศค่อนข้างแห้ง อาจเกิดการเสียดสี และหากมีวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงอยู่ด้วยก็อาจเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นได้เช่นกัน