โค่นสน100ปี ริมหาดภูเก็ต

ชาวบ้านฮือปิดถนนหาดไม้ขาวเมืองภูเก็ต ประท้วงนาย ทุนเจ้าของโครงการก่อสร้างโรงแรมหรู ตัดโค่นต้นสนอายุกว่า 100 ปี ริมทะเลถึง 8 ต้น ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติฯ เพราะกลัวจะบดบังทัศนีย ภาพของโรงแรม ผู้ว่าฯ รุดเจรจา สั่งสอบสวนข้อเท็จจริง

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 ธ.ค. นายวิชัย ไพรสงบ ผวจ.ภูเก็ต พร้อมด้วย นายไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต นายองอาจ ชนะชาญมงคล ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมและสิ่งแวดล้อม จ.ภูเก็ต

นายวิชาติ พันธ์คง นักวิชาการชำนาญงานป่าไม้ อุทยานแห่งชาติสิรินาถ และตำรวจสภ.ท่าฉัตรไชย อ.ถลาง เจรจากับกลุ่มชาวบ้านที่ตั้งเต็นท์ปิดถนนสายสนามบิน-สวนมะพร้าว บริเวณปากทางเข้าโครงการก่อสร้างโรงแรมหรู ในเนื้อที่ 120 ไร่ บ้านไม้ขาว หมู่ 4 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง เนื่องจากไม่พอใจที่มีผู้ลักลอบตัดโค่นต้นสนทะเลอายุกว่า 100 ปีจำนวน 8 ต้นในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติสิรินาถ

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อเย็นวันที่ 1 ธ.ค. ต้นสนทะเลอายุกว่า 100 ปี จำนวน 8 ต้น ถูกตัดโค่น

สร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ในเบื้องต้นชาวบ้านสงสัยว่า เจ้าของโครงการสร้างโรงแรมเนื่องจากต้นสนทะเลดังกล่าวบดบังทัศนียภาพบริเวณชายหาด เมื่อต้องมองออกมาจากโรงแรม และใบสนจะหล่นลงไปในสระน้ำของโรงแรม จากการเข้าเจรจาของผวจ.ภูเก็ต พบกับแกนนำชาวบ้าน นำโดย นายมาโนช สายทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านไม้ขาว นายธรรมนูญ เพชรไทย ประธานกลุ่มชาวบ้านหมู่ 4, นายประวัติ พิมานพรหม นายสมพร อโนพันธ์ นายไพศาล แซ่อิ๋ว นายประเสริฐ แซ่หลี และนายนิคม ปานมี กรรมการหมู่บ้าน หมู่ 4 ต.ไม้ขาว ยื่นข้อเรียกร้องต่อผวจ.ภูเก็ต

สำหรับข้อเรียกร้อง ประกอบด้วย ขอให้ยกเลิกบันทึกข้อตกลงระหว่างโครงการและอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ที่บันทึกไว้เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2552

เรื่องการขออนุญาตใช้พื้นที่ในเขตอุทยานฯ และขอเช่าใช้พื้นที่อุทยานฯ ความยาว 500 เมตร เป็นระยะเวลา 30 ปี หากทางโครงการและทางอุทยานฯ จะดำเนินงานในที่ดินสาธารณะใดๆ ของหาดไม้ขาว จะต้องทำประชาคมต่อชาวบ้านในพื้นที่ก่อน อุทยานฯ จะต้องนำบุคคลที่ทำลายโค่นต้นไม้สนทะเลทั้ง 8 ต้น มาดำเนินคดี ให้อุทยานฯ สำรวจรังวัดแนวเขต พร้อมทั้งปักแนวเขตอุทยานฯ ให้ชัดเจน เพื่อป้องกันการบุกรุก ตลอดจนขอให้ติดตามที่มีการบันทึกตกลง เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา เรื่องการก่อสร้างของโครงการบุกรุกที่สาธารณะ หลังจากที่ทำข้อตกลงไปแล้ว สมัยนายปรีชา เรืองจันทร์ เป็นผวจ.ภูเก็ต แต่ยังไม่มีความคืบหน้า

นายวิชัย กล่าวว่า การตัดต้นสนทะเลในเขตอุทยานฯ ถือเป็นเขตหวงห้าม ทางจังหวัดมีนโยบายชัดเจนว่าจะต้องรักษาต้นไม้

และร่วมกันปลูกให้เพิ่มมากขึ้น แต่กรณีนี้ตรงกันข้าม เพราะตัดต้นไม้ใหญ่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ทางโรงแรมที่ตั้งอยู่ติดกับชายหาดลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมหรือเอ็มโอยู กับอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ดังนั้น จะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่า ทางอุทยานฯ มีอำนาจหรือไม่อย่างไร ในการทำเอ็มโอยูกับเอกชน

"การตัดต้นสนทะเลริมชายหาด ต้องใช้อุปกรณ์และเครื่องจักรเป็นเครื่องทุ่นแรง ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าหน้าที่อุทยานฯ มีที่ตั้งห่างไปประมาณ 1 กิโลเมตร มัวทำอะไรอยู่ ยืนยันว่าจะต้องสอบสวนเอาผิดคนที่ตัดต้นสนในครั้งนี้อย่างถึงที่สุด เป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ รวมถึงต้องสอบสวนเจ้าหน้าที่ด้วยว่ามีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดหรือไม่อย่างไร มีใครเกี่ยวข้องด้วย และกำชับไปยังตำรวจ สภ.ท่าฉัตรไชย เร่งตรวจสอบ และสอบสวนหาความจริงให้ได้ ว่าต้นไม้ที่ถูกตัดนั้น ใครเป็นคนตัด และเอาไปไหน ใครเป็นคนสั่ง รวมถึงให้ตรวจสอบอุปกรณ์พวกเลื่อยไฟฟ้า รถยนต์ รถแบ๊กโฮ ว่าเป็นของผู้ใด และให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด" ผวจ.ภูเก็ต กล่าว

ผวจ.ภูเก็ต กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาได้พยายามร่วมมือกันเพื่อปลูกต้นไม้เพิ่ม รักษาไว้ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติ และความสวยงาม เพื่อเป็นห้องรับแขก

เนื่องจากหาดไม้ขาวอยู่ใกล้สนามบินภูเก็ต เมื่อเครื่องบินลงจะเห็นหาดทราย และต้นไม้ที่เขียวชะอุ่ม หากปล่อยให้ทำลายก็จะเห็นแต่แท่งคอนกรีต จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นทราบว่าเจ้าของหรือหุ้นส่วนเป็นชาวต่างชาติ คิดว่าไม่น่าจะกล้าสั่งให้ตัดต้นไม้ในเขตอุทยานฯ แต่น่าจะมีคนไทยอยู่เบื้องหลัง

ต่อข้อถามว่ามีเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ รู้เห็นเป็นใจด้วยหรือไม่ นายวิชัย กล่าวว่า คงต้องสอบสวนกันตามขั้นตอน

ส่วนกรณีที่ชาวบ้านเรียกร้องให้ยกเลิกเอ็มโอยูนั้น จะตรวจสอบว่าทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ มีอำนาจยกให้เอกชนได้หรือไม่อย่างไร พร้อมทั้งจะรายงานให้ผู้บริหารของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับทราบด้วย เพราะทราบว่าขณะนี้ไม่ยินยอมให้ชาวบ้านเข้ามาใช้พื้นที่บริเวณหน้าชายหาดเสียแล้ว ดังนั้น หากปล่อยให้เอกชนเช่าถึง 30 ปี อนาคตจะเป็นอย่างไร

นายวิชาติ กล่าวว่า นำเอกสารหลักฐานภาพถ่ายการกระทำความผิด เข้าแจ้งความต่อพ.ต.ต.รัษฎา กลึงวงศ์ สารวัตรเวร สภ.ท่าฉัตรไชย

เพื่อให้ดำเนินติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไปแล้ว สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ผวจ.ภูเก็ตให้ความสนใจ และสั่งการให้อุทยานฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีบันทึกข้อตกลงระหว่างอุทยานฯ กับทางโรงแรมนั้น เท่าที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน พบว่าเป็นหนังสือบันทึกข้อตกลงในการเข้ามาปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณพื้นที่ของทางอุทยานฯ หน้าสถานที่ก่อสร้างโรงแรม โดยมีการลงนามในสมัยหัวหน้าอุทยานฯ คนก่อน เมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่ไม่มีข้อใดที่อนุญาตให้ทางโรงแรมตัดต้นไม้หรือต้นสนได้ เพราะตามเงื่อนไขการปรับปรุงภูมิทัศน์ตามที่ตกลง ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของอุทยานฯ การตัดต้นสนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นการกระทำโดยพลการฝ่ายเดียว

นักวิชาการชำนาญงานป่าไม้ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในส่วนของเรื่องบันทึกข้อตกลงที่ทำขึ้น ทางนายวิชัยสั่งการให้ตรวจสอบรวบรวมเอกสารหลักฐาน

เพื่อนำเสนอต่อทางจังหวัดภายใน 3 วัน เพื่อพิจารณายกเลิกบันทึกข้อตกลงที่ทำขึ้น เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดเงื่อนไข จนทำให้ชาวบ้านปิดถนนประท้วงการตัดต้นสนอายุ 100 ปี ในครั้งนี้ ส่วนนายธรรมนูญ หนึ่งในแกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า หาดไม้ขาว เป็นพื้นที่ที่คงความเป็นธรรมชาติที่สุดที่หลงเหลืออยู่ในขณะนี้ เป็นชายหาดที่ทอดยาว มีชื่อเสียงเป็นสถานที่เต่า มะเฟืองขึ้นมาวางไข่ จนมีประเพณีเดินเต่า หลังจากที่ทางนายทุนเข้ามาก่อสร้างโรงแรม ยังไม่ทันแล้วเสร็จก็เกิดปัญหา อย่างกรณีที่ชาวบ้านไปเที่ยวเล่นบริเวณชายหาดหน้าโรงแรม จะมีรปภ.ของทางโรงแรมมาไล่ ห้ามเข้าไป อ้างเป็นพื้นที่หวงห้ามของโรงแรม ฉะนั้น หากชาวบ้านไม่รวมพลังมาต่อสู้ ในอนาคตนายทุนอาจยึดชายหาดเป็นชายหาดส่วนตัว ทั้งที่สถานที่แห่งนี้ เป็นสมบัติของชาวภูเก็ตทุกคน ขอเรียกร้องให้ทางจังหวัดดำเนินการอย่างเฉียบขาด เพราะไม่คำนึงถึงชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แห่งนี้มาช้านาน

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์