กรมอนามัย แนะเด็กกินผักสด เพิ่มวิตามินซีให้ร่างกาย สร้างภูมิคุ้มกันสู้โรคหน้าหนาว
วันนี้(2 ธ.ค.) ดร.นพ. สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงการส่งเสริมให้เด็กกินผักเพิ่มวิตามินซี ป้องกันโรคหน้าหนาว ว่า ปัจจุบันเด็กไทยมีอัตราการกินผักลดน้อยลง โดยจากการสำรวจภาวะอาหารและโภชนาการของประชาชนในกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2546-2547 พบว่า เด็กวัยเรียนมีการกินผักทุกวันเพียงร้อยละ 41.1 ในปริมาณวันละ 14.3 กรัมต่อคน หรือประมาณ 1.5 ช้อนกินข้าว ซึ่งมีปริมาณน้อยกว่าธงโภชนาการที่แนะนำให้เด็กวัยเรียน อายุ 6-13 ปี ควรกินผักมื้อละ 4 ช้อนกินข้าว นอกจากนี้ ยังพบว่า เด็กวัยเรียนมีการกินอาหารประเภท แป้ง น้ำตาล และไขมันเพิ่มขึ้น ทั้ง ๆ ที่ควรมีการกินผักผลไม้ให้ได้ วันละ 500 กรัม เพื่อลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง เป็นต้น
ดร.นพ.สมยศ กล่าวต่อไปว่า การปลูกฝังพฤติกรรมให้เด็กมีนิสัยรักการกินผัก ควรเริ่มต้นจากครอบครัวในการส่งเสริมให้ลูกกินผักให้มากขึ้นจนนำไปสู่ความเคยชิน เพราะผักอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุและสารพฤกษเคมีต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ฤดูหนาว ผักจะมีความสด กรอบ เหมาะที่จะจูงใจให้เด็กกินผักมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผักสีเขียว ที่จะให้ทั้งวิตามินซีที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผนังเซลล์แข็งแรง และช่วยสร้างภูมิต้านทานโรคในช่วงหน้าหนาว อาทิ โรคไข้หวัด โรคหลอดลมอักเสบ และโรคระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น