เมื่อ 1 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุรถขนเงินธนาคารไทยพาณิชย์พลิกคว่ำบนถนนสายเลี่ยงเมือง-สนามบินสุราษฎร์ธานี ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน
รถดิ่งลงไปในหนองน้ำพร้อมเงินสดกว่า 30 ล้านบาท ว่า เนื่องจากภายในรถที่เกิดเหตุมีเงินสดจำนวนมาก ตำรวจสภ.พุนพินจึงต้องจัดกำลังกว่า 20 นาย มาดูแลป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่ใช้ระดมกู้รถนานกว่า 2 ชั่วโมง พบว่าน้ำไหลซึมเข้าไปในตัวรถ ส่วนเงินสด 30 ล้านบาท ซึ่งมีระบบการป้องกันอย่างดียังคงอยู่ในรถ เจ้าหน้าที่ของธนาคารตรวจสอบแล้วพบว่าเงินยังอยู่ครบ และน้ำไม่ได้ซึมเข้าไปในตู้เก็บเงินแต่อย่างใด
เหตุเกิดช่วงหัวค่ำวันที่ 30 พ.ย. กับรถขนเงินของบริษัทแซมโก้ จำกัด เลขรถ C 152 หมายเลขทะเบียน ณน-1011 กทม.
ซึ่งรับขนเงินจำนวน 30 ล้านบาท จากธนาคารไทยพาณิชย์ ตามสาขาต่างๆ ใน จ.ชุมพร เพื่อเข้าสำนักงานภาคที่จ.สุราษฎร์ธานี เสียหลักพลิกคว่ำลงคูน้ำข้างทาง บริเวณทางโค้งบ้านบางพลา ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าสู่ตัวเมืองสุราษฎร์ธานี สภาพรถพลิกค่ำตกลงไปทั้งคัน น้ำท่วมรถครึ่งคัน โดยนายสัมฤทธิ์ ราชนารี อายุ 36 ปี เป็นคนขับมากับเพื่อนอีก 1 คน ต้องตะเกียกตะกายออกจากตัวรถเพื่อเอาชีวิตรอด หลังมีผู้ประสบเหตุช่วยงัดประตูรถออกมาได้หวุดหวิด ก่อนที่น้ำจะไหลเข้าท่วมตัวรถ
ก่อนเกิดเหตุรถคันดังกล่าววิ่งรับเงินจากสาขาต่างๆ ตั้งแต่ชุมพรไล่ลงมาเรื่อยๆ และจะต้องนำเงินไปเก็บที่สาขาพุนพิน ซึ่งเป็นเส้นทางประจำ
แต่วันนี้ไม่ต้องเข้าไปรับเงินที่สาขาพุนพิน คนขับจึงตัดสินใจใช้เส้นทางดังกล่าว ซึ่งเป็นทางลัดเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ธานี เมื่อขับมาถึงบริเวณบ้านบางพลา ซึ่งเป็นทางเปลี่ยวและเป็นทางโค้งมาก ประกอบกับมีฝนตก ทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำตกลงไปในหนองน้ำข้างทางดังกล่าว