เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กล่าวเตือนถึงโรงเรียนที่ให้เด็กเข้าแถวตอนเช้ากลางแดด ในขณะที่ตอนนี้สภาพอากาศของประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากมวลอากาศหนาวเย็นของประเทศจีนที่พัดลงมา ทำให้ในหลายพื้นที่ความหนาวเย็นโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคอีสาน ในขณะที่ในภาคกลางอุณหภูมิจะมีความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างฉับพลัน เย็นและร้อนสลับกันไปเป็นระลอกๆ ต่อเนื่องกันไปอีก 1-2 เดือนข้างหน้า
“สำหรับโรงเรียนที่นิยมให้เด็กๆ เข้าแถวกลางแดดในตอนเช้าก็ควรจะใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง และไม่ควรทำกิจกรรมกลางแสงแดดในช่วงเวลาตั้งแต่ 10.00-15.00 น. เนื่องจากจะเป็นช่วงที่แสงแดดรุนแรงที่สุด ทางที่ดีควรหากิจกรรมออกกำลังกายในที่ร่มให้เด็กทำจะดีกว่า ที่สำคัญอย่าลงโทษเด็กให้ยืนกลางแดดเป็นเวลานานแม้ว่าสภาพอากาศในบางพื้นที่จะหนาวเย็นก็ตามเพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อสายตา และสุขภาพโดยทั่วไปของเด็กๆ ได้” นายอานนท์กล่าว
นายอานนท์กล่าวต่อว่า ในช่วงฤดูหนาวมักจะมีแสงแดดที่ค่อนข้างรุนแรงกว่าแสงแดดในฤดูกาลอื่น เนื่องจากมีลมพัดมาจากทางตอนใต้
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลมทะเลที่ไม่มีฝุ่น ทำให้รู้สึกว่าแสงแดดในช่วงกลางวันมีความร้อนกว่าปกติ สภาพแสงแดดของประเทศไทยในช่วงนี้จะพบว่ามีความร้อนกว่าปกติ เนื่องจากอิทธิพลจากลมทางใต้ที่พัดมาจากทะเล เป็นลมที่ไม่มีฝุ่นจึงทำให้ท้องฟ้าโปร่ง แสงอาทิตย์ส่องลงมาได้สะดวกทำให้มีแสงแดดจ้าและรุนแรง ประกอบกับอากาศเปลี่ยนไปมาอย่างฉับพลันทำให้มีโอกาสที่ร่างกายปรับตัวไม่ทันอาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุ และเด็ก ดังนั้นจึงควรดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันอาการเจ็บป่วย เช่น โรคทางเดินหายใจ เป็นต้น
สิ่งที่ต้องคอยติดตามอย่างต่อเนื่องหลังจากนี้ก็คือเรื่องของการเกิดไฟป่า เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้ง จะทำให้เกิดไฟป่าได้ง่าย
โดยเฉพาะตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป หน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องดูแลและมีมาตรการการควบคุมการเกิดไฟป่าที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ เพราะการเกิดไฟป่าไม่เพียงที่จะเป็นทำให้สูญเสียผืนที่ป่าธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาหมอกควันและปัญหาโลกร้อนอีกด้วย