ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาส ว่า ล่าสุด บรรยากาศทั่วไปยังคงมีฝนตกในบางพื้นที่ แต่ไม่หนาแน่น ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำท่วมขังบ้านเรือน และพื้นที่ทางการเกษตรของราษฎรในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ มีปริมาณน้ำท่วมขังลดลงอย่างต่อเนื่อง เหลือเพียงบางส่วนที่เป็นแอ่งน้ำใกล้กับแม่น้ำสายหลักทั้ง 3 สาย คือ แม่น้ำสุไหงโก-ลก บางนรา และแม่น้ำสายบุรี ซึ่งอยู่ในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ สุไหงโก-ลก แว้ง ตากใบ และรือเสาะ ที่ยังคงมีปริมาณน้ำท่วมขังอยู่ โดยมีความสูงเฉลี่ย 60-80 เซนติเมตร ซึ่งราษฎรอาศัยอยู่ประมาณ 650 ครัวเรือน รวม 1,980 คน
นอกจากนี้ ถนนสายหลัก และสายรองในหมู่บ้าน ซึ่งเคยถูกน้ำท่วมขังช่วงที่ผ่านมา 103 สาย ก็มีระดับน้ำท่วมขังลดลงอย่างต่อเนื่องด้วย เหลือเพียง 45 สาย ภายในหมู่บ้านเท่านั้นที่ยานพาหนะขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ โดยมีระดับน้ำท่วมสูงโดยเฉลี่ยประมาณ 30-40 เซนติเมตร ที่ชาวบ้านยังคงใช้เรือท้องแบนของทางการ และเรือพายส่วนตัวเป็นพาหนะเดินทางสู่โลกภายนอก และคาดว่า หากฝนหยุดตกอย่างต่อเนื่อง 3-4 วันติดต่อกัน จะทำให้ภาพรวมของภาวะน้ำท่วมขังกลับคืนสู่สภาวะปกติ
ด้าน ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จ.นราธิวาส ได้สรุปความเสียหายจากเหตุอุทกภัยระลอก 2 มีราษฎรได้รับความเดือดร้อนทั้งสิ้น 63,369 คน บ้านเรือนราษฎรถูกกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากพัดเสียหาย 19 หลัง พื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมขัง 2,200 ไร่ บ่อปลา กุ้ง ตะพาบ น้ำเสีย 80 บ่อ สะพาน และคอสะพานถูกน้ำกัดเซาะ 17 แห่ง โรงเรียนถูกน้ำท่วม 17 โรง คิดมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นเป็นเงิน 44,751,040 บาท