อดีตสส.ชีวิตรันทดประจัญ กล้าผจญ นอนเพิงสังกะสี!

อดีตส.ส.ปลาไหล 2 สมัย "ประจัญ กล้าผจญ" อดีตผู้แทน โคราชชีวิตรันทด เป็นอยู่อย่าง แร้นแค้นนอนเพิงสังกะสีอยู่ตัวคนเดียว เจ้าตัวไม่มีรายได้อื่นต้องอาศัยเบี้ยยังชีพเลี้ยงตัว หลังจากสอบตกมาหลายสมัย เจ้าตัวขมขื่นนัก การเมืองใช้เงินซื้อเสียงเข้าสภา ด้าน"เติ้ง" ทราบข่าวเตรียมส่งคนไปเยี่ยมให้ความช่วยเหลือแล้ว

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีอดีตส.ส.นครราชสีมา ชีวิตตกอับ พักอยู่เพียงลำพังในบ้านซอมซ่อ จึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่บ้านเลขที่ 23 ถ.หนองม่วง 2 เทศบาลเมืองบัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา พบนายประ จัญ กล้าผจญ อดีตส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติไทย มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างน่ารันทด สภาพบ้านหลังดังกล่าวเป็นเพียงเพิงสังกะสี หลังคารั่วเป็นรูพรุน ฝาบ้านเป็นสังกะสีเก่าผุๆ มีแผ่นพลาสติก ป้ายโฆษณาปิดไว้พอกันแดดกันลมเท่านั้น ภายในบ้านก็มีที่นอนเก่าๆ กับมุ้ง 1 หลังกางอยู่ เครื่องใช้ในบ้านแทบจะไม่มีอะไรเลย บริเวณข้างๆ บ้านมีเพียงจักรยานเก่า 1 คัน

ตกยาก - นายประจัญ กล้าผจญ อายุ 68 ปี (ซ้าย) อดีตส.ส.พรรคชาติไทย 2 สมัย
 อยู่ในสภาพรันทด อาศัยกระต๊อบมุงสังกะสี ที่ อ.บัว ใหญ่ จ.นครราชสีมา
โดยนายบรรหาร ศิลปอาชา สั่งช่วยเหลือแล้ว ตามข่าว

นายประจัญ เปิดเผยว่า อดีตตนเป็นครูประ ชาบาล 15 ปี สอนมาแล้วหลายโรงเรียนทั้งในเขต อ.ชุมพวง อ.บัวใหญ่ สุดท้ายเป็นครูใหญ่ที่โรงเรียนบ้านหญ้าคา ต.สีดา อ.สีดา จ.นคร ราชสีมา

หลังจากนั้นได้ลาออกมาสมัครเป็นทหารอาสาไปรบที่ประเทศเวียดนาม เป็นเวลา 1 ปี กลับมาเมืองไทย พ.ศ.2522 ตนได้ลง สมัครส.ส.นครราชสีมา สังกัดพรรคชาติไทย ขณะนั้นมี พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นหัวหน้าพรรค และได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2522 อยู่จนครบวาระ 4 ปี สมัยที่ 2 ได้รับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2526 จนถึง พ.ศ.2529 ก็มีการปฏิวัติ หลังจากนั้นตนก็ได้สมัครส.ส.อีกหลายครั้ง แต่สอบตกเพราะไม่มีเงินซื้อเสียง

นายประจัญ กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า การ เมืองทุกวันนี้แย่มากๆ ลงเลือกตั้งแต่ละครั้งต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากทั้งนั้น

คนที่ตั้งใจจะทำ งานเพื่อบ้านเมืองกลับไม่มีโอกาส ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรกับส.ส.ปัจจุบันโดดร่มไม่ไปประชุมทำให้สภาล่มบ่อยๆ นายประจัญ กล่าวว่านักการเมืองสมัยนี้ไม่มีจิตสำนึก ไม่สมกับที่อาสาประชาชนเข้าไปเป็นผู้แทน ไม่มีความรับผิดชอบ มีแต่ความแตกแยก ยึดผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าผลประโยชน์ของชาติ น่าเบื่อหน่าย "ทุกวันนี้ผมไม่มีรายได้อะไรเลย ก็ได้เบี้ยยังชีพคนชราเดือนละ 500 บาท มาซื้อข้าวสารพอประทังชีวิตเท่านั้น ส่วนกับข้าวก็เก็บผักบุ้งตามหนองน้ำใกล้บ้านมาผัด วันไหนมีเงินถึงจะได้ซื้อไข่มาทอดกินสักครั้ง บางทีก็ซื้อปลาทูเค็มมาขยำข้าวกินก็จะได้หลายวัน แต่วันนี้ข้าวสารก็หมด เหลือข้าวอยู่กำมือเดียว ก็คงจะต้มข้าวต้มกินไปก่อน" นายประจัญกล่าว

ด้านนายคำพันธ์ บุญยืด อดีตหัวหน้าการประ ถมศึกษาอำเภอบัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นลูกศิษย์ที่นายประจัญเคยสอนหนังสือมา

กล่าวว่า นายประจัญเป็นคนสมถะ สมัยก่อนตอนสมัครส.ส.ก็ปั่นจักรยานหาเสียงไปตามหมู่บ้านต่างๆ จนได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.ถึง 2 สมัย โดยไม่ได้ซื้อเสียงเลยแม้แต่บาทเดียว แต่ก่อนบ้านของนายประจัญเป็นบ้านไม้หลังใหญ่ ขณะเป็นส.ส.ก็มีพระกับชาวบ้านแฝก อ.สีดา มาขอเงินไปซื้อไม้เพื่อสร้างสะพานข้ามคลอง นายประจัญไม่มีเงินให้เนื่องจากเป็นส.ส.คนจน จึงให้มารื้อบ้านตนเอาไปสร้างสะพาน พระกับชาวบ้านก็มารื้อเอาไปจริงๆ นายประจัญจึงได้ปลูกกระต๊อบอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ "มีอยู่ครั้งหนึ่งมีชาวบ้านมาขอความช่วยเหลือ แต่นายประจัญไม่มีเงินให้ ก็ถอดสร้อยคอทองคำให้ไป ทุกวันนี้นายประจัญอยู่อย่างอนาถา แต่ก็ไม่เคยที่จะไปเอ่ยปากรบกวนใคร"

นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังทราบถึงกรณีนายประจัญ อดีตส.ส.พรรคชาติไทย ตกอับว่า นายประจัญเป็นส.ส.ของพรรคชาติไทย เมื่อประ มาณปี 2523 หรือ 2526 ตนไม่มั่นใจ ลงสมัคร ส.ส.ครั้งแรกเขาก็สอบได้ผ่านการเลือกตั้งเป็น ส.ส. 1 สมัย แล้วหายหน้าไปเลย ไม่เคยมาที่พรรค ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเป็นไปอย่างไร แต่ในเมื่อทราบว่าตกระกำลำบากอย่างนี้ ก็จะให้นายนิกร จำนง เข้าไปช่วยเหลือ โดยจะส่งคนไปดูให้ก่อน

นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ในฐานะโฆษกพรรคชาติไทยพัฒนากล่าวว่า ตนได้ทราบข่าวกรณีความเดือดร้อนของนายประจัญแล้ว ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้นิ่งนอนใจกับความเดือดร้อนของอดีตส.ส. พรรคชาติไทยดังกล่าว

จึงพยายามหาทางช่วยเหลือโดยในเบื้องต้นตนจะเดินทางไปพบนายประจัญ ที่อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมาด้วยตัวเอง ในวันที่ 22 พ.ย. เวลา 12.00 น. เพื่อไปไต่ถาม สารทุกข์สุกดิบ และความเดือดร้อนที่นายประ จัญประสบอยู่ โดยตนจะนำโทรทัศน์เครื่องเล็กๆ สักเครื่องหนึ่งไปมอบให้ตามที่นายประ จัญอยากได้ เนื่องจากทราบมาว่านายประจัญอยากได้ทีวีเล็กๆ สักเครื่องเอาไว้ติดตามดูข่าวการเมือง นอกจากนี้ จะมอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่งในเบื้องต้น และจะสอบถามว่ายังขาดเหลืออะไรบ้าง เพราะทางพรรคจะพยายามหามาตรการช่วยเหลือในระยะยาวต่อไป

"เท่าที่ทราบข้อมูลในเบื้องต้น นายประจัญเดือดร้อนมาก บ้านที่อยู่อาศัยทุกวันนี้ก็ทรุดโทรมและผุพัง ความเป็นอยู่ลำบากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาฝนตกต้องพยายามหาที่หลบ มุมในบ้านตรงที่หลังคาไม่รั่วเพื่อหลบฝน และเงินที่จะหาซื้ออาหารมาประทังชีวิตก็ไม่มี บางครั้งอาศัยจากเพื่อนบ้านที่ช่วยเหลือ และอาศัยจากสวนผักข้างบ้านเป็นอาหาร และเท่าที่ทราบสาเหตุความยากจนก็ไม่ได้เกิดเพราะติดการพนันหรือติดสุราแต่อย่างใด แต่เป็นความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นจริง" นายวัชระกล่าว

นายวัชระกล่าวว่า เมื่อตนได้ไปสอบถามความต้องการและดูสภาพความเป็นอยู่ได้ข้อเท็จจริงแล้วก็จะกลับมารายงานให้ที่ประชุมพรรคชาติไทยพัฒนาทราบ

ซึ่งจะมีการประชุมกรรม การบริหารพรรคและสมาชิกพรรคกันในวันอังคารที่ 24 พ.ย.นี้ นอกจากนั้นก็จะเรียนให้นายบรรหารได้ทราบ เพราะได้แสดงความห่วง ใยมาก และสั่งให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม นายประจัญเป็นอดีตส.ส.ที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับพรรคชาติไทย ดังนั้นทางพรรคชาติไทยพัฒนายืนยันจะไม่ทอดทิ้งและจะรีบเร่งหามาตรการช่วยเหลือให้ได้อย่างถาวร เพราะทราบข้อมูลจากเพื่อนบ้านนายประจัญว่า เจ้าตัวอยากประกอบอาชีพทำร้านอาหารเล็กๆ ริมถนน ซึ่งถ้าสามารถช่วยให้ทำได้จริงก็จะได้มีอาชีพติดตัวไม่ลำบากต่อไป เท่าที่รู้แม้นายประ จัญขณะนี้จะมีอายุ 68 ปี แต่สุขภาพร่างกายยังแข็งแรง

ด้านเจ้าหน้าที่พรรคชาติไทย ซึ่งทำงานอยู่กับพรรคมานานรายหนึ่ง กล่าวว่า ตนจำนายประ จัญได้ดี โดยนายประจัญเป็นอดีตครูและได้เป็น ส.ส.เมื่อปี 2522 สมัยนั้นนายประจัญใช้งบประ มาณในการหาเสียงเลือกตั้ง

โดยทางพรรคช่วยไปเพียง 50,000 บาทเท่านั้น และป้ายหาเสียงของนายประจัญ ใช้ชอล์กเขียนข้อความตามฝาบ้าน ในสมัยนั้นนายบรรหารเองก็เคยไปช่วยเดินหาเสียงด้วย เพราะตอนนั้นนายบรรหาร เป็นรองเลขาธิการพรรค มีพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นเลขาธิการพรรค และพล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร เป็นหัวหน้าพรรคชาติไทย ซึ่งนายประจัญเป็นส.ส.พรรคชาติไทยเพียงสมัยเดียว เพราะเมื่อลงเลือกตั้งปี 2526 แต่สอบไม่ผ่าน

นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ ส.ส.นครราชสีมา เขต 5 พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา เปิดเผยว่าขณะที่ตนลงพื้นที่ไปพบปะกับชาวบ้านเพื่อรับฟังปัญหาต่างๆ ที่บ้านหนองม่วง ต.บัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา

ได้พบกับนายประจัญ กล้าผจญ อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ถ.ม่วงสอง ตำบลบัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา อดีตส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติไทย 2 สมัย แต่ปัจจุบันตกอับต้องอาศัยบนที่ดินของเพื่อนบ้านและอยู่กระต๊อบที่มุงด้วยสังกะสีเก่าๆ มีรูพรุน ส่วนฝาบ้านก็ได้นำเศษพลาสติกและแผ่นป้ายโฆษณาต่างๆ นำมาติดเพื่อกันแดดกันลม ซึ่งฝาบ้านก็มีเพียง 3 ด้าน อีกด้านหนึ่งปล่อยโล่ง เวลาฝนตกมาน้ำฝนก็สาด และยิ่งขณะนี้อากาศที่จ.นครราชสีมากำลังหนาวเย็น นายประจัญจึงอยู่อาศัยอย่างลำบากทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นถึงผู้แทนราษฎรผู้ทรงเกียรติ
และปัจจุบันอาศัยเบี้ยยังชีพคนชราเดือนละ 500 บาทประทังชีวิต โดยไม่มีรายได้อื่นๆ มาเลี้ยงตนเอง

นายสมชัยกล่าวว่า นายประจัญเคยสร้างคุณงามความดีทำประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมืองมามาก เคยเป็นครู 23 ปี เป็นส.ส. 7 ปี แต่ก็ไม่ได้รับบำนาญ

ตนเห็นว่านายประจัญน่าจะมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้เพราะถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมไทย การที่นายประจัญอยู่อย่างลำบากในบั้นปลายชีวิตก็สะท้อนให้เห็นว่านายประจัญไม่เคยกอบโกยประโยชน์ให้กับตัวเองและช่วยเหลือชาวบ้านจนตัวเองไม่เหลืออะไรเลย ซึ่งคนดีเช่นนี้น่าจะได้รับการยกย่อง ในส่วนของตนก็มาชักชวนให้นายประจัญไปพักผ่อนและอาศัยอยู่ที่บ้าน ซึ่งตนเปิดเป็นสำนักงานและที่พบปะของชาวบ้านที่บ้านหนองไอ้อู๊ก ต.โนนเต็ง อ.คง จ.นครราชสีมา ซึ่งนายประจัญก็ยินดี

นายประจัญ กล่าวว่า ตนเองเคยรับราชการครูมา 23 ปี ไปรบในสงครามเวียดนามอีก 1 ปี หลังจากนั้นได้ตัดสินใจเข้าสู่ถนนการเมืองเพราะต้องการช่วยเหลือชาวบ้านที่มีความเป็นอยู่ที่ลำบากยากแค้น

หลังจากได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส. ตนเองก็ไม่เคยใช้เงินซื้อเสียง ขี่จักรยานออกพบปะชาวบ้าน เสียสละทุกสิ่งทุกอย่างและต่อสู้กับการทุจริตคอร์รัปชั่น หลังจากไม่ได้เป็นส.ส. แล้วก็มีชาวบ้านมาพบเพื่อขอความช่วยเหลือโดยเฉพาะปัญหาของส่วนรวม และอยู่มาวันหนึ่งชาวบ้านเดือดร้อนเพราะสะพานขาด ตนก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร เงินก็ไม่มี จึงให้ชาวบ้านมารื้อเอาเสาและไม้ที่บ้านตนไปซ่อมสะพานก่อนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งประชาชนมักจะเข้าใจว่าส.ส.ทุกคนจะต้องรวยและช่วยเขาได้ทุกเรื่อง แต่ส.ส.จนๆ อย่างตนก็มีและมีความจริงใจช่วยเหลือทุกอย่างจนหมดตัว แต่ตนก็ภูมิใจถึงจะอยู่อย่างลำบากก็ไม่ลำบากใจ อยู่อย่างพอเพียง คือพออยู่ พอกิน แต่เมื่อนายสมชัยยื่นมือมาช่วยเหลือต้องการให้ตนเองมีชีวิตที่ดีขึ้นตนก็ยินดีและขอขอบคุณ และจะช่วยเสนอแนะแนวคิดที่ดีๆ เผื่อส.ส.จะนำไปใช้ประโยชน์ได้บ้าง

ด้านนางอังวรา กล้าผจญ อายุ 50 ปี บุตรสาว เล่าว่า ตนเป็นลูกสาวคนโตระหว่างนายประจัญกับนางเล็ก คิดถาง ซึ่งมีบุตรด้วยกัน 1 คนคือตน และนางเล็กแม่ของตนก็ได้เสียชีวิตลงตอนตนอายุเพียง 3 ขวบ

นายประจัญได้แต่งงานใหม่กับนางละม่อม กล้าผจญ มีบุตรด้วยกันอีก 5 คน นายประจัญเป็นส.ส.นครราชสีมาครั้งแรกในปีพ.ศ.2522 และเป็นส.ส.ครบเทอม 4 ปี และสมัยที่สอง เมื่อปีพ.ศ.2526 ในนามพรรคชาติไทย ด้วยคะแนนถึง 74,000 คะแนน และอยู่ในตำแหน่ง 3 ปี นายกรัฐมนตรีสมัยนั้นก็ประกาศยุบสภา รวมพ่อเป็นส.ส.มา 7 ปี หลังจากนั้นนายประจัญก็สมัครรับเลือกตั้งอีกแต่ก็สอบตก ซึ่งหลังจากไม่ได้เป็นส.ส.แล้ว ภรรยาใหม่ก็ได้ขอแยกทางไปอยู่ที่กรุงเทพฯ พร้อมลูกอีก 5 คน จึงทิ้งให้ตนและนายประจัญอยู่กันสองคน

นางอังวรา เปิดเผยว่า สมัยที่นายประจัญเป็นส.ส.มีแต่ให้คนอื่นช่วยเหลือชาวบ้านจนหมดทรัพย์สินทุกอย่างที่มีอยู่

ใครมาขอแม้แต่เสื้อผ้าที่สวมใส่พ่อก็ถอดให้ ที่ผ่านมาพ่อไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากใครทั้งสิ้น จนกระทั่งนายสมชัยยื่นมือมาช่วยเหลือ ส่วนตนเป็นดีเจ.วิทยุชุมชน อ.บัวใหญ่ คลื่นเอฟเอ็ม 101.5 เมกะเฮิร์ตซ์ และทุกวันจะมาหุงหาอาหารให้พ่อรับประทานในช่วงเช้า ส่วนตอนเย็นตนจะไปนอนพักที่บ้านยายในหมู่บ้านหนองม่วง นานๆ ครั้งภรรยาคนที่สองของพ่อและลูกๆ ทั้ง 5 คนก็จะกลับมาเยี่ยมและนำเครื่องอุปโภคบริโภคมาให้พ่อและหยิบยื่นเงินให้บ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพรรคชาติไทยพัฒนา โดยนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย และนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาคนปัจจุบัน ได้ให้เจ้าหน้าที่ติดต่อนายสุรพันธ์ ดิสมาน นายอำเภอบัวใหญ่ จ.นครราชสีมา เพื่อประสานงานส่งโฆษกพรรคชาติไทยพัฒนามาเยี่ยมนายประจัญในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ย.2552 เวลา 12.00 น. เพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์