ชวนสัมผัสหนาวที่ทุ่งแสลงหลวง

ขณะนี้เริ่มก้าวเข้าสู่ฤดูหนาวแล้วซึ่งเป็นฤดูกาลที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวมากที่สุด
เนื่องจากมีอากาศที่เย็นสบาย ต้นไม้เขียวชอุ่ม และดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ต่างผลิดอกบานสะพรั่งรอให้มายลโฉม จังหวัดพิษณุโลกนับเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามติดอันดับของเมืองไทยอยู่มากมายหลายแห่ง แต่ที่ขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวสัมผัสลมหนาวก็คือ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 3 ของประเทศไทย มีเนื้อที่ 789,000 ตารางกิโลเมตร อยู่ในท้องที่ 2 จังหวัด คือ อำเภอนครไทย อำเภอวังทอง และอำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก และครอบคลุมพื้นที่อำเภอวังโป่ง และ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นภูเขาสลับซับซ้อน มีจุดสูงสุดคือบริเวณเขาปู่ ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลปาน กลางประมาณ 1,028 เมตร จึงทำให้บริเวณนี้เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย เช่น ห้วยเข็กใหญ่ ห้วยเข็กน้อย คลองชมพู ลำน้ำทุ้ม และคลองวังทอง  
   
อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ และมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญหลายจุด ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาท่องเที่ยว 

โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ เช่น ทุ่งนางพญา ทุ่งโนนสน โดยเฉพาะบริเวณ หน่วยพิทักษ์อุทยานที่ สล.8 หนองแม่นา ที่เป็นทุ่งหญ้าแบบสะวันนา มีเนื้อที่ประมาณ 10  ตร.กม. ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก โดยในช่วงหน้าฝนบริเวณนี้จะเป็นทุ่งหญ้าสีเขียวขจี   หรือเป็นสนามฟุตบอลขนาดใหญ่มหึมาสวยงามมาก และเมื่อย่างเข้าสู่ฤดูหนาวถึงฤดูแล้งทุ่งหญ้าแห่งนี้จะกลายสภาพเป็นทุ่งหญ้าสีทองเหลืองอร่ามไปทั่วท้องทุ่ง
   
สำหรับสภาพป่าของอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงแห่งนี้ประกอบด้วย ป่าดิบเขา ดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณ พรรณไม้ที่สำคัญ ได้แก่

สนสองใบ ยาง ตะเคียน สัก มะค่า เก็ดดำ ประดู่ ฯลฯ และมีพื้นที่เป็นทุ่งหญ้าโล่งกว้างใหญ่ ซึ่งมีไม้สนและพันธุ์ไม้ดอกขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก จากสภาพความสมบูรณ์ของอุทยานแห่งนี้ทำให้มีสัตว์ป่านานาชนิด ได้แก่ ช้าง เสือ หมี กระทิง กวาง เก้ง ลิง ค่าง กระต่าย นกเงือก ไก่ฟ้าพญาลอ นก และผีเสื้อชนิดต่าง ๆ จำนวนมาก  ซึ่งในช่วงเข้าฤดูหนาวนั้นที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงจะมีอากาศที่เย็นสบาย   ทำให้มีนักท่องเที่ยวทุกสารทิศเดินทางมาท่องเที่ยวและกางเต็นท์พักแรมกันเป็นจำนวนมาก 

นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจไม่น้อยไปกว่ากันก็คือ ทุ่ง นางพญา

ซึ่งทุ่งนางพญาจะเป็นทุ่งหญ้าที่โอบล้อมด้วยป่าสนสองใบสลับป่าดิบแล้ง และป่าเต็งรัง เป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ เมื่อเข้าไปท่องเที่ยวก็จะได้พบกล้วยไม้พันธุ์หายากอยู่จำนวนมาก เช่น เอื้องชะนี เอื้องคำปากไก่ และในฤดูหนาวเมื่อถึงยามเช้าจะมีสายหมอกไหลเอื่อย ๆ เป็นธรรมชาติที่สวยงามมาก ซึ่งทุ่งนางพญาแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.8 (หนองแม่นา) ระยะทาง 7 กิโลเมตร ทุ่งโนนสน ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของอุทยานฯ ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.8 (หนองแม่นา) ไปประมาณ 33 กิโลเมตร เป็นทุ่งหญ้าสลับป่าสนเขา ช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเต็มไปด้วยดอกไม้ป่านานาพันธุ์ ที่แข่งขันกันออกดอกบานสะพรั่งอย่างสวยงามเต็มทั่วท้องทุ่ง เช่น ดอกดุสิตา เอื้องม้าวิ่ง กระดุมเงิน กระดุมทอง สร้อยสุวรรณา หม้อข้าวหม้อแกงลิง และกล้วยไม้ดินนานา ชนิด 
   
นอกจากนี้ยังมีสถานที่น่าเที่ยวชมก็คือ ถ้ำพระวังแดง  เป็นถ้ำน้ำลอด มีขนาด ใหญ่ ยาวประมาณ 12.5 กิโลเมตร

โดยบริเวณทางเข้าอยู่กลางถ้ำนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ในระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร โดยจุดที่น่าสนใจของถ้ำแห่งนี้ก็คือ หินงอกหินย้อยมีลักษณะคล้ายช้างหรือไดโนเสาร์ อยู่ในคูหาแรก นอกจากนี้ภายในถ้ำยังพบ ปลาตาบอด ซึ่งเป็นปลาหายากอยู่ภายในถ้ำเป็นจำนวนมาก โดยถ้ำแห่งนี้ตั้งอยู่ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สล.5 (ชมพู) ต.ชมพู อ.เนินมะปราง  และถ้ำเดือน-ถ้ำดาว เป็น   ที่ที่มีความสวยงาม  ที่สุดอีกแห่งหนึ่ง ลักษณะของถ้ำจะมีธารน้ำไหล สามารถเข้าเที่ยวชมได้ลึกไปภายในถ้ำประมาณ 1.4 กิโลเมตร ระหว่างทางภายในถ้ำจะพบหินงอกหินย้อย ซึ่ง  มีเกล็ดแร่ซิลิกาเคลือบอยู่เมื่อต้องแสงไฟจะสะท้อนแสงเป็นประกายระยิบระยับเหมือนแสงดาว  เป็นที่มาของชื่อ ถ้ำเดือน-ถ้ำดาว ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านมุง อ.เนินมะปราง
   
เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวหรือพักผ่อนที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงแห่งนี้ แล้วสามารถเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ และมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย

ทั้งปั่นจักรยานเสือภูเขาไปเที่ยวชมทิวทัศน์ความงามของธรรมชาติท่ามกลางขุนเขาที่สมบูรณ์ ซึ่งมีดอกไม้ป่านานาชนิดและผีเสื้อจำนวนมากให้ได้ชม นอกจากนี้แล้วผู้ที่ชื่นชอบการดูนกยังสามารถหาดูนกพันธุ์หายากได้ และในช่วงกลางคืนนักท่องเที่ยวสามารถออกไปเที่ยวส่องสัตว์ป่านานาชนิด เช่น ช้าง กวาง เก้ง กระต่าย หมูป่า ที่ออกมาหากินในยามค่ำคืนได้อีกด้วย
   
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบสัมผัสใกล้ชิดกับธรรมชาติ    ก็ลองมาท่องเที่ยวได้ที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงแห่งนี้

ซึ่งทางอุทยานฯ พร้อมให้การต้อนรับและบริการนักท่องเที่ยว โดยมีที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยวจำนวน 16 หลังบริเวณที่ทำการอุทยานฯ 8 หลัง บริเวณ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.8 จำนวน 8 หลัง หากนักท่องเที่ยวที่ต้อง   การกางเต็นท์นอน ทางอุทยานฯ ก็มีเต็นท์ไว้ให้บริการอีกด้วย สามารถสอบถามข้อมูล ได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง โทร. 0-5526-8019 หรืองานบริการบ้านพัก โทร. 0-2562-0760,   0-2579-7223, 0-2561-2919.