จากการที่เยาวชนไทยประสบความสำเร็จ ในเวทีการแข่งขันหุ่นยนต์ระดับโลกมาอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของคนไทยในเทคโนโลยีดังกล่าว ขณะเดียวกันตลาดหุ่นยนต์โลกก็มีแนวโน้มการเติบโตที่สูงมาก ถึงขนาดมีการคาดการณ์กันว่าอีกประมาณ 10 ปีข้างหน้าตลาดหุ่นยนต์ทุกประเภทของโลกจะมีมูลค่ารวมกันมากกว่าตลาดรถยนต์ของโลกเสียอีก
และนี่คือโอกาส ที่จะต่อยอดความสามารถของทีมวิศวกรไทย ที่เคยได้รับรางวัลแชมป์หุ่นยนต์โลก
“ซีที เอเชีย โรโบติกส์” จึงถือกำเนิดขึ้น โดยเป็นบริษัทที่ผลิตหุ่นยนต์ไทยเชิงพาณิชย์รายแรกของประเทศ
เปิดตัวฝีมือทีมวิศวกรไทยด้วยหุ่นยนต์บริการต้นแบบตัวแรก ที่ใช้ชื่อว่า “น้องซีที” ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณบางส่วนในการวิจัยและพัฒนาจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในโครงการหุ่นยนต์บริการอัจฉริยะ
นายเฉลิมพล ปุณโณทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทฯ บอกว่า ตั้งบริษัทนี้ขึ้น มาเพื่อพัฒนาหุ่นยนต์ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น ทั้งด้านงานบริการและการส่งเสริมการตลาด
ซึ่งนอกจากต่อยอดองค์ความรู้วิศวกรไทยแล้ว ยังสร้างตลาดใหม่ให้กับอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ของประเทศ แถมยังตั้งเป้าหมายให้ทุกครัวเรือนมีหุ่นยนต์ประจำบ้าน ภายในปี 2562 อีกด้วย
จากน้องซีที ต้นแบบตัวแรกของบริษัท ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ทดสอบทางเทคนิค ต่าง ๆ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาเพิ่มเติมเป็นหุ่นยนต์บริการในร้านอาหาร สุกี้ เอ็มเค เบื้องต้นมียอดสั่งซื้อ 10 ตัวมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ส่วนอนาคต บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาเป็นหุ่นยนต์เพื่อความบันเทิงและหุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งคาดว่าจะนำเข้าไปทำตลาดในประเทศญี่ปุ่นได้ใน 3 ปีข้างหน้า
กลับมาที่น้องซีที ที่ดูรูปร่างแล้ว ออกจะเหมือนกับหุ่นยนต์แขนกลในการ์ตูน “นายอดิศักดิ์ ดวงแก้ว” ผู้จัดการบริษัทฯ อดีตแชมป์หุ่นยนต์กู้ภัยโลก บอกว่า หุ่นยนต์ต้นแบบตัวนี้มีน้ำหนัก 80 กิโลกรัม สูง 110 เซนติเมตร หรือเทียบกับเด็กอายุประมาณ 8 ขวบ มีความสามารถในการฟังคำสั่งได้ถึง 2 ภาษาคือ ไทยและอังกฤษ มีซอฟต์ แวร์อัจฉริยะสำหรับตัดเสียงรบกวน เคลื่อนที่ด้วยล้อ ด้วยความเร็ว 1 เมตรต่อวินาที โดยใช้ออมนิไดรฟ์แทนสายพาน เหมาะสำหรับพื้นที่ราบในร้านอาหารและ สามารถเสิร์ฟอาหารได้ โดยยกของได้หนักถึง 5 กิโลกรัม
และจากต้นแบบน้องซีที จะถูกปรับแต่งฟังก์ชันตามที่ลูกค้าต้องการ อย่างเช่นของร้านสุกี้เอ็มเค จะมีขนาดที่แตกต่างออกไปสีสันสวยงามมากขึ้น และใช้ชื่อว่าน้องดินสอ ซึ่งผู้บริหารเอ็มเค บอกว่า จะนำไปใช้งานด้านให้ความบันเทิงลูกค้า โดยเฉพาะเด็ก ๆ ซึ่งไม่ได้คาดหวังว่าเป็นการกระตุ้นยอดขายแต่นี่คือการสนับสนุนผลงานคนไทยและอาจจะกระตุ้นให้เยาวชนไทยอยากเป็นวิศวกรหุ่นยนต์ขึ้นมาบ้าง
ปีหน้า...หากแวะเข้าไปใช้บริการที่ เอ็มเค สุกี้ อาจจะต้องแปลกใจ เพราะบริกรคนใหม่ที่เข้ามาต้อนรับ อาจไม่ใช่คน !!!.