สธ.ระบุตั้งแต่ ม.ค.-มี.ค. 52 คนไทยหวัดเงินซื้อเหล้าทุกชนิด 3.4 หมื่นล้าน คิดเป็นร้อยละ6 ของรายจ่ายครัวเรือน
วันนี้(10 พ.ย.) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข แถลงข่าว “ปีใหม่ปลอดเหล้า กระเช้าใส่ใจสุขภาพ” และตัดสินการประกวดกระเช้าปีใหม่ต้นแบบที่ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
นายมานิต กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสำคัญๆ คนไทยส่วนใหญ่มักนิยมดื่มสุราและมอบกระเช้าของขวัญที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิต ในปีใหม่ 2553 ที่ใกล้จะถึงนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน รณรงค์ควบคุมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเทศกาลปีใหม่ ให้ปฏิบัติตามกรอบกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ในมาตรา 30(5)อย่างเคร่งครัด ห้ามห้างร้านต่าง ๆจัดกระเช้าสำเร็จรูปที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หากฝ่าฝืนมีความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเป็นความผิดตามมาตรา 32 กรณีที่มีการกระทำที่เป็นการโฆษณาหรือสื่อสารการตลาดร่วมด้วย และหากมีการโฆษณาส่งเสริมการขายด้วย จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท และปรับรายวันอีกวันละไม่เกิน 5 หมื่นบาท
นายมานิต กล่าวต่อว่า จากการติดตามประเมินการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคนไทยทั่วประเทศในเดือน ม.ค.-มี.ค. 2552 ที่ผ่านมา คนไทยควักเงินซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดรวม 34,545 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 6 ของรายจ่ายครัวเรือนในหมวดผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม ยาสูบและเครื่องนุ่งห่ม โดยซื้อเบียร์มากที่สุดจำนวน 22,632 ล้านบาท ซื้อสุราและไวน์ 11,913 ล้านบาท
นายมานิต กล่าวอีกว่า สำหรับผลการตัดสินกระเช้าของขวัญปลอดเหล้า กระเช้าที่ได้รับรางวัลที่ 1 ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณจาก รมช.สาธารณสุข ได้แก่ กระเช้าของห้างคาร์ฟู รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต รองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ บิ๊กซี และรองที่ 3 ได้แก่ เดอะมอลล์สาขาสยามพารากอน โดยกระทรวงสาธารณสุขจะนำกระเช้าที่ได้รับรางวัลไปมอบให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีในโอกาสต่อไป.