ราชทัณฑ์ยัน ราเกซ ไม่มีอภิสิทธิ์

เมื่อวันที่ 4 พ.ย.นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงการควบคุมตัวนายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษา กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ จำกัด (มหาชน) หรือ บีบีซี ว่า มาตรการดูแลนายราเกซ จำเป็นต้องเน้นเรื่องความปลอดภัยและเรื่องสุขภาพเป็นสำคัญ เนื่องจากนายราเกซมีอาการของโรคความดันโลหิตสูง และเส้นเลือดตีบ อีกทั้งนายราเกซเป็นผู้ต้องหาในคดีสำคัญ จึงไม่ต้องการให้มีเหตุร้ายเกิดขึ้น เพราะอาจกระทบกับชื่อเสียงของประเทศ ยืนยันว่า มาตรการความปลอดภัยที่จัดขึ้น และการจัดสถานที่ให้นายราเกซอยู่ในแดนพยาบาล รวมถึงการประสานให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมดูแลนายราเกซระหว่างถูกควบคุมตัวในเรือนจำตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ใช่การอำนวยความสะดวกให้นายราเกซมีอภิสิทธิ์ในเรือนจำ เป็นการดูแลในลักษณะเดียวกับผู้ต้องขังทั่วไป ส่วนเรื่องอาหารทางเรือนจำไม่อนุญาตให้รับอาหารหรือของเยี่ยมจากภายนอก โดยทั่วไปผู้ต้องขังสามารถรับประทานอาหารของทางเรือนจำที่ปรุงในแดนสูทกรรม หรือซื้ออาหารจากร้านค้าสงเคราะห์ภายในเรือนจำ

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้นายราเกซได้ซื้ออาหารจากร้านค้าสงเคราะห์ภายในเรือนจำเป็นหลัก เพราะยังไม่คุ้นกับรสชาติอาหารที่ทางเรือนจำจัดให้ นอกจากนี้นายราเกซ ยังได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ระหว่างที่พักอาศัยในประเทศแคนาดา ชอบดื่มน้ำอัดลมหรือน้ำชาเขียว ส่วนเมนูอาหารโปรดเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ด เช่น แฮมเบอร์เกอร์ ไก่ทอด และขนมปัง แต่นายราเกซไม่ได้เรียกร้องหรือขอสิ่งใดเป็นพิเศษ ได้รับเพียงการดูแลตามปกติเหมือนผู้ต้องขังทั่วไป ในส่วนการเข้าเยี่ยมจะต้องปฏิบัติตามระเบียบเรือนจำอย่างเคร่งครัด มีการจัดเตรียมพื้นที่ไว้ให้เป็นการเฉพาะ และจะอนุญาตเฉพาะญาติสนิทกับทนายความของนายราเกซเท่านั้น โดยญาติสนิทสามารถเข้าเยี่ยมได้วันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 20 นาทีเท่านั้น