พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงลอยพระประทีปท่าน้ำศิริราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พสกนิกรเฝ้าฯรับเสด็จอย่างใกล้ชิด ชาวบ้านปลื้มปีติน้ำตาไหล ได้เห็นทุกพระองค์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จพระราชดำเนินยังท่าน้ำศิริราชเพื่อทรงลอยพระประทีปเนื่องในเทศกาลลอยกระทง เมื่อเวลา 18.55 น. วันที่ 2 พฤศจิกายน แม้เป็นการเสด็จฯส่วนพระองค์ แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระบรมราชานุญาตให้สื่อมวลชนรายงานข่าวและเผยแพร่ภาพแห่งประวัติศาสตร์ครั้งนี้ด้วย
การเสด็จฯลอยพระประทีปในครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ และท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม ลงจากอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อเสด็จฯยังท่าน้ำศิริราช
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉลองพระองค์เชิ้ตด้านในสีชมพูลายสก๊อตสีขาว ทับด้วยฉลองพระองค์เสื้อแจ๊คเก็ตสีครีม สวมพระสนับเพลาสีกรมท่า ประทับบนรถเข็นไฟฟ้า ซึ่งสมเด็จพระราชินี พระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จฯเคียงข้างพระวรกาย โดยมีรองศาสตราจารย์ นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวินิน หัวหน้าสำนักงานศูนย์โรคหัวใจ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ถวายการเข็น ซึ่งเส้นทางเสด็จฯ ออกจากอาคารเฉลิมพระเกียรติผ่านอาคารอำนวยการแล้วเลี้ยวซ้ายยังเส้นทางข้างตึกคณะพยาบาลศาสตร์ จนถึงท่าน้ำศิริราช
ตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พสกนิกรเฝ้าฯรับเสด็จอย่างใกล้ชิด ทรงโบกพระหัตถ์พร้อมกับทรงยกกล้องขึ้นฉายพระรูปประชาชนที่มารอเฝ้ารับเสด็จตลอดเส้นทาง ประชาชนต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญ พร้อมก้มลงกราบแทบฝ่าพระบาท บางคนถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่เมื่อได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ปีติในหลวง-ราชินีเสด็จฯ ลอยกระทง พร้อมพระบรมวงศานุวงศ์
จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงนำพวงมาลัยถวายสักการะพระพุทธรูปเมตตาคุณากร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประจำท่าน้ำศิริราช ที่ตั้งอยู่บริเวณก่อนจะถึงท่าน้ำ เสร็จแล้วพระองค์เสด็จฯยังมุกของท่าน้ำศิริราช เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังนำพระประทีปซึ่งทำจากขนมปังทูลเกล้าฯถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียน แล้วทรงพนมพระหัตถ์และอธิษฐาน ขณะเดียวกัน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงจุดธูปเทียนที่เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังทูลเกล้าฯถวายเช่นกัน
ขณะที่ทั้งสองพระองค์ทรงจุดธูปเทียนพระประทีป พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ประทับอยู่ใกล้ๆ เมื่อเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังได้นำพระประทีปของทั้งสองพระองค์ไปลอยในแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว พระบรมวงศานุวงศ์จึงเสด็จฯยังท่าน้ำเพื่อลอยพระประทีปที่ได้จัดเตรียมไว้ ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทอดพระเนตรพระโอรส พระธิดาทรงลอยพระประทีปด้วยพระพักตร์แจ่มใส จากนั้นพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จฯยังมุกที่ทั้งสองพระองค์ประทับอีกครั้ง พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติทรงกราบทูลกระหม่อมปู่ที่ตัก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงประทับนั่งข้างๆ ทั้งสองพระองค์ และทุกพระองค์ประทับต่อเพื่อทอดพระเนตรวิวทิวทัศน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งใช้เวลานานกว่า 20 นาที ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ
สำหรับพระประทีปที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงใช้ลอยนั้น เป็นฝีมือการประดิษฐ์ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายพระราชฐานชั้นใน สำนักพระราชวัง โดยพระประทีปแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1.พระประทีปขนมปัง กับ กระทงสด โดยพระประทีปสดทำมาจากกาบพลับพลึงสีขาว ประดิษฐ์เป็นรูปดอกบัว พื้นพระประทีปตกแต่งด้วยดอกไม้สด อาทิ ดอกบานไม่รู้โรยสีชมพู สีเขียว สีเหลือง สีขาว ส่วนเครื่องทองน้อยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตกแต่งด้วยดอกบานไม่รู้โรยสีเหลือง-ขาว ส่วนพระประทีปของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทำมาจากกาบพลับพลึงสีขาว พื้นพระประทีปตกแต่งด้วยดอกไม้สด อาทิ ดอกบานไม่รู้โรยสีชมพู สีเขียว สีเหลือง สีขาว ส่วนเครื่องทองน้อยของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตกแต่งด้วยดอกบานไม้รู้โรยสี ฟ้า-ขาว สำหรับพระประทีปขนมปังนั้นมีการนำขนมปังมาทำเป็นรูปดอกบัว พื้นกระทงเป็นลายดอกกุหลาบ ส่วนเครื่องทองน้อยนั้นประดิษฐ์จากขนมปังเหมือนกัน พร้อมกันนี้ยังมีพระประทีปของเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชบริพารอีกจำนวน 70 ชุดด้วย
ทั้งนี้ ก่อนถึงเวลาเสด็จพระราชดำเนิน นายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการสำนักพระราชวัง เตรียมความพร้อมด้วยการเรียกสื่อมวลชนประชุมพร้อมกันที่บริเวณท่าน้ำศิริราช เพื่อแจ้งให้ทราบถึงหมายกำหนดการในการลอยพระประทีป พร้อมบอกด้วยว่าเป็น การส่วนพระองค์ แต่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระบรมราชานุญาตให้สื่อมวลชนสามารถเผยแพร่ได้
จนในช่วง 14.30 น. รองเลขาธิการสำนักพระราชวัง เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังและเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางกอกน้อย ร่วมกันปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณท่าน้ำศิริราชให้พร้อมรับเสด็จ โดยมีการทำความสะอาดท่าน้ำปรับแต่งต้นไม้ที่สวนหย่อม ประดับไฟเพิ่ม รวมทั้งปูลาดพระบาทสีแดง ตั้งแต่บริเวณอาคารอำนวยการผ่านถนน บวรสถานภิมุข ขึ้นไปถึงบนท่าน้ำ ขณะเดียวกันเหล่าพสกนิกรจำนวนมากที่รับทราบข่าวต่างพร้อมใจนำเสื่อมาปูจับจองที่นั่งบริเวณริมถนนเข้าสู่ท่าน้ำศิริราช ฝั่งคณะพยาบาลศาสตร์ กันอย่างเนืองแน่น โดยถือธงชาติ นำพระบรมฉายาลักษณ์มาชูไว้ เหนือหัวแสดงความจงรักภักดี
นางนิภา นุจรีพร อายุ 50 ปี เดินทางมาจากจังหวัดนครปฐม เพื่อเฝ้าติดตามพระอาการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่มีความสุขและดีใจมากที่สุดในชีวิตที่ได้เห็นพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างใกล้ๆ พระองค์ดูสดชื่น และทรงแข็งแรงมาก เหมือนกับพระองค์ทรงหายประชวรแล้ว
"ดิฉันได้เห็นกับตาตัวเองถึงกับน้ำตาไหล รู้สึกดีใจ ข่าวลือไม่เป็นมงคลต่างๆ จะได้หมดไปเสียที และในกลุ่มของดิฉันที่เดินทางมาด้วยกัน 15 คน ก็ร่วมกันสวดถวายพระพรพระองค์ท่านให้ทรงแข็งแรงโดยเร็ว" นางนิภากล่าว
นางอนุรักษ์ ทองมี อายุ 68 ปี ชาวศรีสะเกษ เดินทางมาเพื่อลงนามถวายพระพร กล่าวว่า เดินทางมาลงนามเป็นครั้งแรก และถือว่าเป็นโชคดีที่สุดในชีวิตที่ได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และทุกพระองค์ทรง ลอยพระประทีป พอได้เห็นพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ถึงกับร้องไห้ ตื้นตัน และดีใจมากที่เห็นพระองค์ท่านทรงแข็งแรง และอยากให้พระองค์ทรงมีสุขภาพแข็งแรง ตลอดไป
"พระองค์ท่านแข็งแรงมากๆ ดีใจเหลือเกินที่พระองค์ไม่เป็นอะไร ตอนที่ยังไม่ได้มีโอกาสได้มาเห็นพระองค์ ดิฉันไม่สบายใจเลย แต่พอได้เห็นพระองค์ท่านในครั้งนี้ รู้สึกสบายใจมาก นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นพระองค์ท่านใกล้ๆ เห็นแล้วก็ร้องไห้ออกมาเฉยๆ มันตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก" นางอนุรักษ์กล่าว
สำหรับบรรยากาศลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช ยังคงมีคณะบุคคล บุคคลมีชื่อเสียง และประชาชนเดินทางมาลงนามถวายพระพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็วกันอย่างต่อเนื่อง ตลอดทั้งวัน
สำนักข่าวรอยเตอร์และเอพีได้เผยแพร่รายงานและภาพข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินทรงลอยพระประทีปเนื่องในเทศกาลลอยกระทงที่ท่าน้ำศิริราชไปทั่วโลก โดยเอพีระบุว่า นับเป็นการปรากฏพระองค์ต่อสาธารณชนเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประทับรักษาพระอาการประชวร ณ โรงพยาบาลศิริราช