วันนี้ (2 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระมงคลญาณเถร หรือ “หลวงปู่มา ญาณวโร” ประธานสงฆ์แห่งวัดสันติวิเวก บ้านโนนคำ ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด พระเกจิอาจารย์ฝ่ายวิปัสสนากัมมัฏฐานชื่อดังแห่งภาคอีสาน ที่ผู้คนต่างรู้จักดีถึงกับมีการขนานนามท่านว่า “เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำชี” ได้ละสังขารแล้ว เมื่อเวลา 10.59 น. ที่วัดสันติวิเวก ด้วยอายุ 97 ปี หลังจากอาพาธมานานหลายเดือน ก่อนมาละสังขารด้วยโรคชรา และเส้นเลือดในสมองแตก ซึ่ง นายธวัชชัย ฟักอังกูร ผวจ.ร้อยเอ็ด นายประวัติ ถีถะแก้ว รอง ผวจ.ยโสธร นพ.อุปทิน รุ่งอุทัยศิริ ผอ.รพ.เสลภูมิ พ.ต.อ.รณภพ หริ่มสืบ ผกก.สภ.เสลภูมิ ดร.ธีระ ชัยคณารักษ์กูล ได้พากันเฝ้าดูอาการจนวินาทีสุดท้าย และละสังขารต่อหน้า สร้างความโศกเศร้าเสียใจแก่คณะสงฆ์ รวมทั้งบรรดาศิษยานุศิษย์จำนวนมาก
ทั้งนี้ ช่วงเย็นวันเดียวกัน นายธวัชชัย จะเป็นประธานฝ่ายฆราวาส และ พระสุทธิสารโสภณ เจ้าคณะ จ.ร้อยเอ็ด เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ทำพิธีรดน้ำศพ และสวดพระอภิธรรม โดยในวันที่ 3 พ.ย. ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป จะเปิดให้ศิษยานุศิษย์ญาติโยมทั้งหลายเข้าเคารพศพ และ ในเวลา 15.09 น. พระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา (กรรมการมหาเถรสมาคม) จะเดินทางมาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นำน้ำหลวงสรงศพ และสวดพระอภิธรรม และจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมอย่างต่อเนื่องไปจนครบ 100 วัน ก่อนจะมีการประชุมคณะกรรมการเพื่อดำเนินการบรรจุศพใส่ในโลงแก้ว แล้วเก็บไว้ที่ศาลากลางน้ำภายในวัด โดยจะไม่มีการเผา เพื่อให้ศิษยานุศิษย์รุ่นลูกรุ่นหลานได้มากราบไว้บูชา ตามเจตนารมณ์ของหลวงปู่ที่เคยสั่งไว้ก่อนมรณภาพ
สำหรับ หลวงปู่มา มีนามเดิมว่า มา วรรณภักดี เกิดเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2456 ที่บ้านโนนคำ ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายคูณ และ นางตั้ว วรรณภักดี ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 5 คน อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 14 เม.ย.2476 ชีวิตของหลวงปู่มาเป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยการอุทิศตนเพื่อประโยชน์สุข ประโยชน์เกื้อกูลแก่มวลมนุษยชาติ มีความโดดเด่นของเกียรติคุณชื่อเสียง และความพิเศษสุดในการบำเพ็ญทานบารมี เป็นที่เคารพนับถือของคณะสงฆ์ไทย เคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีปฏิปทาสม่ำเสมอ จึงเป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ถึงกับมีการขนานนามท่านว่า “เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำชี”