เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 30 ต.ค. พ.ต.ต.สุวัฒน์ จินดาวรรณ สารวัตรชุดปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบที่ตู้กดเงินเอทีเอ็ม ของธนาคารกรุงไทย สาขาน่าน หลังได้รับแจ้งจาก รปภ.ธนาคารกรุงไทย สาขาน่าน ถนนสุมนเทวราช ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน ว่าถูกคนร้ายทุบได้รับความเสียหาย 2 ตู้ ตรวจสอบตู้ถอนเงินสด และตู้ฝากเงินสด ถูกทุบจอแตกเสียหาย เศษกระจกตกเกลื่อนหน้าตู้ มีร่องรอยถูกงัดแงะ
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่า เมื่อเวลา 01.45 น. คนร้าย 2 คน โดยคนสวมกางเกงขาสั้นลายพรางสามส่วน เสื้อยืดสีฟ้าเป็นคนดูต้นทาง ส่วนอีกคนสวมเสื้อยืดชั้นในขาวไม่สวมรองเท้า สวมหมวกกันน็อคสีชมพูคาดขาว ถือขวดมาทุบตู้ด้านซ้ายช่องที่ฝากเงินด้านล่างก่อนแล้วทุบตู้ด้านขวา ก่อนพยายามล้วงเงินแต่ไม่ได้ จึงเดินกลับออกไป แล้วกลับมาอีกครั้ง โดยครั้งนี้สวมถุงมือสีเขียวแบบนิ้วโผล่ควานหาเงินในตู้แล้ก็เดินกลับออกไป ต่อมาเวลา 02.02. น. ได้กลับมาอีกครั้ง เที่ยวนี้เปลี่ยนกางเกงเป็นสีกากี สวมเสื้อยืดข้างในขาวสวมทับด้วยแจ็คเก็ตดำ พร้อมถือลวดและไขควงมาด้วย โดยใช้ไขควงแหย่เข้าไปในตู้ เอาลวดสอดเข้าไปทางช่องจ่ายเงิน แต่ไม่สามารถนำเงินออกมาได้ จึงกลับออกไป
นางสุธีรา จิตมา รองผู้จัดการบริการลูกค้า ธนาคารกรุงไทยสาขาน่าน กล่าวว่า สาเหตุที่ไม่มีสัญญาณเตือนภัยดัง เนื่องจากด้านหน้าตู้ไม่ได้ติดสัญญาณป้องกันเหตุร้าย จะติดไว้ด้านหลังที่บริเวณตู้บรรจุเงิน จึงมีแต่กล้องวงจรปิด สำหรับตู้ ATM ทั้ง 2 ตู้ที่เสียหายได้รายงานให้สำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯทราบและ นำมาเปลี่ยนให้ใหม่
ด้าน พ.ต.ต.สุวัฒน์ จินดาวรรณ สารวัตรชุดปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน กล่าวว่า จากบันทึกกล้องวงจรปิด ระบุชัดว่า คนร้ายเชื่อว่าเงินอยู่ด้านล่างที่กดรหัส และใช้เวลานานมากกว่า 2 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 01.35 – 03.37 ในการพยายามนำเงินออกมาจากตู้เอทีเอ็ม หลายครั้ง ซึ่งครั้งหลังได้เรียกเพื่อนให้เข้ามาช่วยด้วยการถอดเสื้อแจ็คเก็ตดำให้เพื่อนคลุมหัวป้องกัน อำพรางใบหน้าจากกล้องวงจรปิด จึงทำให้เห็นรอยสักที่ต้นแขน ซึ่งทำให้ง่ายต่อการติดตามตัว และคาดว่าจะสามารถจับกุมตัวได้ในเร็ววันนี้