กรุงเทพ 23 ต.ค.- มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต “สวนดุสิตโพล” ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ
ต่ออนาคตการรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 1,202 คน ระหว่างวันที่ 20-22 ตุลาคม 2552 เพื่อปรับโครงสร้างการรถไฟฯ เพื่อฟื้นฟูฐานะการเงินของการรถไฟฯ ที่มีหนี้สินจำนวนมาก และเพื่อแก้ไขการประสบสภาวะขาดทุนมาโดยตลอด สรุปผลที่สำคัญดังนี้ คือ ประชาชนมองว่าปัญหาสำคัญของการรถไฟแห่งประเทศไทยใน อันดับแรก คือ ความเสื่อมโทรมของรถจักรและอุปกรณ์ อันดับ 2 คือ การดำเนินนโยบายในการพัฒนาไม่ชัดเจน อันดับ 3 คือ ผู้บริหารไม่มีประสิทธิภาพ และอันดับ 4 การบริการด้อยประสิทธิภาพ
สำหรับแนวทางแก้ปัญหาการบริหารงานของการรถไฟฯ ให้มีประสิทธิภาพ ด้วยการจัดตั้งบริษัทลูก 2 บริษัท
โดยการรถไฟฯ ถือหุ้น 100 เปอร์เซ็นต์ คือ บริษัท บริหารทรัพย์สิน และ บริษัทเดินรถทำหน้าที่ในการพัฒนาและบริหารจัดการเรื่องที่ดิน บริการขนส่งโดยสารและรถสินค้า เป็นการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ หรือไม่ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 46.49 มองว่า เป็นการแปรรูป อันดับ 2 ร้อยละ 39.47 ไม่แน่ใจ อันดับ 3 ร้อยละ 14.04 มองว่าไม่เป็นการแปรรูป แต่ประชาชน ส่วนใหญ่ร้อยละ 43.11 เห็นด้วยกับแนวทางแก้ปัญหาการขาดทุนโดยการจัดตั้งบริษัทลูก 2 บริษัท ดังกล่าว เพราะช่วยฟื้นฟูและแก้ปัญหาขาดทุนทางการเงิน เป็นการกระตุ้นการทำงานของการรถไฟฯ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ความเห็นที่มีน้ำหนักรองลงมาเป็นอันดับ 2 คิดเป็นร้อยละ 38.47 ระบุว่า ไม่แน่ใจการตั้งบริษัทลูก เพราะยังไม่ทราบข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ที่ชัดเจนพอ
สำหรับคำถามว่า หากไม่มีการจัดตั้งบริษัทลูก 2 บริษัท การรถไฟแห่งประเทศไทยควรมีการปรับปรุงเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพต่อไปอย่างไร
ผลการสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 23.64 ต้องการให้เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานให้ดีขึ้น รองลงมาร้อยละ 20.06 ให้ปรับปรุงด้านการบริการและการเดินรถให้ดีขึ้น และอันดับ 3 คิดเป็นร้อยละ 19.81 ระบุว่า ควรแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ส่วนการปรับขึ้นค่าโดยสารเพื่อลดปัญหาการขาดทุน ประชาชนส่วนใหญ่มากถึงร้อยละ 42.987 ไม่เห็นด้วย.- สำนักข่าวไทย