มาร์คแบะท่าไฟเขียวขึ้นราคาสินค้า

นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ภาคเอกชนเสนอให้รัฐลดราคาน้ำตาลทรายลง ซึ่งนายกรัฐมนตรีขอให้ชำระหนี้ของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายแล้วเสร็จก่อนในปี"53 จากนั้นจึงจะมีการปรับโครงสร้างน้ำตาลทรายต่อไป ขณะเดียวกันยังเสนอให้กระทรวงพาณิชย์ยกเลิกการควบคุมราคาน้ำอัดลม ซึ่งที่ประชุมมอบหมายนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ รับไปพิจารณา คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 30 วัน

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม กรอ.ให้กระทรวงพาณิชย์กลับไปศึกษาผลกระทบจากต้นทุนสินค้าควบคุม และสินค้าที่อยู่ในกลุ่มบัญชีที่จับตามอง (WL) ให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมัน และน้ำตาลที่สูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เพื่อนำกลับมาพิจารณาการปลดออกจากสินค้าควบคุมของกระทรวงพาณิชย์อีก 30 วัน เพื่อความเป็นธรรมกับผู้ผลิต หลังจากที่ภาคเอกชนยื่นขอให้รัฐบาลปลดน้ำอัดลมออกจากสินค้าควบคุมราคา เนื่องจากต้นทุนราคาน้ำตาลสูงขึ้น และน้ำอัดลมไม่ใช่สินค้าจำเป็น หากไม่มีสามารถดื่มน้ำผลไม้แทนได้

ส่วนกรณีที่ภาคเอกชนเสนอให้มีการปรับโครงสร้างน้ำตาลทราย โดยขอลดการชำระคืนเงินกู้เข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำตาลทรายพุ่งสูงขึ้น นายกรัฐมนตรียืนยันการชำระหนี้เงินกองทุน ในอัตราเท่าเดิม คือ 5 บาท/ก.ก. เพื่อให้สามารถใช้หนี้กองทุนหมดในพ.ย.53 หลังจากนั้นค่อยกลับมาหารือในเรื่องการปรับโครงสร้างใหม่

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำตาลทรายโควตา ก เพื่อบรรเทาผลกระทบแก่ผู้ประกอบการใน 2 แนวทางคือ 1.ปรับลดการขึ้นราคาน้ำตาลทรายเพื่อนำส่งรายได้ให้กองทุนฯ โดยยืดระยะเวลาที่จะชำระหนี้หมดออกไป จากปกติจะชำระหนี้หมดภายใน 1 ปี 4 เดือน หากลดการนำส่งเหลือ 3 บาท จะยืดอายุหนี้ออกไปอีก 2 ปี 2 เดือน หรือลดการชำระหนี้เหลือ 2 บาท ยืดหนี้เป็น 3 ปี 3 เดือน และ 2.ให้พิจารณาปรับขึ้นราคาสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น

รายงานข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน แจ้งว่า ผู้ค้าน้ำมันยกเว้นเอสโซ่ ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันทั้งเบนซินและดีเซล 60 สตางค์/ลิตร ยกเว้นแก๊สโซฮอล์อี 85 เวลา 05.00 น. วันที่ 22 ต.ค. ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นดังนี้ เบนซิน 91 อยู่ที่ 34.74 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 31.14 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 30.34 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์อี 20 อยู่ที่ 28.84 บาท/ลิตร ดีเซลอยู่ที่ 27.59 บาท/ลิตร และไบโอดีเซลบี 5 อยู่ที่ 26.19 บาท/ลิตร ทั้งนี้ เอสโซ่ได้ขึ้นราคากลุ่มดีเซลไปก่อนหน้านี้แล้ว 80 สตางคŒ/ลิตร ทำให้ราคาน้ำมันกลุ่มดีเซลของเอสโซ่แพงกว่ารายอื่นอยู่ 20 สตางค์/ลิตร