สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง เตือน โรคที่เกิดในช่วงฤดูฝน แนะ ให้รับประทานอาหารสุกใหม่ และล้างมือ หากไข้สูงเกิน 3 วัน ให้รีบหาหมอ ...
วันนี้ (21 ต.ค.) นายแพทย์บรรเจิด สุขพิพัฒปานนท์ นายแพทย์ด้านเวชกรรมป้องกัน ชำนาญพิเศษ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า เนื่องจากในช่วงนี้เริ่มเข้าฤดูฝน และมีฝนตกหนักเป็นบางวัน ในพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง อันเป็นสาเหตุก่อให้เกิดภาวะน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของดินฟ้าอากาศเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่อาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหลายชนิด เช่น โรคติดต่อระบบทางเดินอาหาร โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ โรคไข้เลือดออก โรคเยื่อบุตาอักเสบหรือตาแดง อันตรายจากสัตว์มีพิษ
นายแพทย์บรรเจิด กล่าวอีกว่า คำแนะนำในการระวังป้องกันโรค รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ เพื่อให้ร่างกายมีความต้านทานโรค โดยเฉพาะกับเด็กและผู้สูงอายุควรดูแลเป็นพิเศษ ดื่มน้ำสะอาดทุกครั้ง เช่น น้ำต้มสุก น้ำโพลาลีส รับประทานอาหารที่สุกใหม่ ไม่มีแมลงวันตอม อย่าใช้มือหรือผ้าที่ไม่สะอาดขยี้ตา หรือ เช็ดตา และระวังไม่ให้น้ำสกปรกเข้าตารีบล้างด้วยน้ำสะอาดทุกครั้งที่ถูกขยะ หรือ สิ่งสกปรกเข้าตา ล้างมือล้างเท้าให้สะอาดทุกครั้งหลังจากเดินย่ำน้ำหรือเดินในน้ำสกปรกแล้วใช้ผ้าที่สะอาดเช็ดให้แห้งอย่าปล่อยให้อับชื้นเป็นเวลานาน ควรสวมรองเท้าบู๊ทหลีกเลี่ยงการสัมผัสพื้นที่แฉะที่มีการเลี้ยงสัตว์และสัมผัสปัสสาวะสัตว์ กำจัดแหล่งเพราะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย และใส่ทรายอะเบทลงในภาชนะที่กักเก็บน้ำ เพื่อป้องกันการวางไข่และการแพร่พันธุ์ของยุงลาย ถ่ายอุจจาระลงในส้วมและล้างมือให้สะอาดหลังถ่ายอุจจาระ ระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ จากการถูกของมีคมและสัตว์มีพิษกัดต่อย โดยการจัดการดูแลบ้านเรือนให้สะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ปล่อยให้รกรุงรังอันเป็นที่อาศัยของสัตว์มีพิษ
นายแพทย์บรรเจิด กล่าวอีกว่า เพื่อสุขภาพของทุกคน จึงขอให้สังเกตุอาการของสมาชิกทุกคนในครอบครัว หากมีไข้สูงและเช็ดตัวหรือกินยาลดไข้แล้ว ไม่ดีขึ้นภายใน 3 วัน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาที่ถูกต้อง ไม่ซื้อยาปฏิชีวนะกินเอง ส่วนยาลดไข้ที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือยาจำพวกแอสไพริน ซึ่งมีสารป้องกันการแข็งตัวของเลือด ห้ามกินอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะคนที่ป่วยด้วยไข้เลือดออกโรคไข้หวัดใหญ่ หากกินยาแอสไพรินเข้าไปจะทำให้เลือดออกง่ายขึ้นและเสียชีวิตได้ง่ายขึ้นด้วย
ขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดีดี โดย : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ