รื้อแล้วป้ายโชว์สาหร่ายกลางเมือง

เทศบาลลุยรื้อแล้วป้ายโฆษณาลามก นางแบบยืนโชว์ สาหร่ายหรา กลางเมืองเชียงใหม่

ตรวจสอบแล้วไม่ได้ขออนุญาตเทศบาล แอบลักไก่ติดตั้งเองโดยพลการ ยันมีความผิดตามกฎระเบียบเทศบาล เผยยังมีอีกมากที่แอบติดตั้งตามจุดสาธารณะ เตรียมประสานแขวงต่างๆ ตรวจสอบป้ายโฆษณาเข้าข่ายไม่เหมาะสมหรือไม่ได้ขออนุญาต

จากกรณีประชาชนร้องเรียนพบป้ายขนาดใหญ่โฆษณาลดความอ้วน ติดอยู่ที่สามแยกฟ้าธานี ถนนสิริมังคลาจารย์ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

ซึ่งป้ายดังกล่าวส่อไปทางลามกอนาจาร เป็นภาพนางแบบหุ่นผอมบาง เห็นสะดือ และสวมบิกินีบางๆ จนเห็นขนที่อวัยวะเพศ ชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปมาต่างพูดกันว่าเป็นป้ายที่ไม่เหมาะสมกับนครเชียงใหม่ เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม พร้อมทั้งจี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการด่วน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 18 ต.ค. เจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนครเชียงใหม่ เข้าไปตรวจสอบป้ายโฆษณาดังกล่าวแล้ว ที่สามแยกฟ้าธานี ถนนสิริมังคลาจารย์ ก่อนจะรื้อถอนนำมาเก็บไว้ที่สำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่

เจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบทราบว่าป้ายดังกล่าวไม่ได้ขออนุญาตจากทางเทศบาล มีความผิดตามกฎระเบียบเทศบาล ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนมากที่แอบมาติดตั้งตามจุดสาธารณะ ทางเทศบาลนครเชียงใหม่จะประสานกับทางแขวงต่างๆ และร่วมกันจัดการกับป้ายที่ไม่เหมาะสม หรือไม่ขออนุญาต โดยจะยึดมาเก็บไว้ที่โกดังของกลางในแผนกเทศกิจเทศบาลนครเชียงใหม่

ด้านนายนที ธีระโรจนพงษ์ เลขาธิการกลุ่มเชียงใหม่อารยะ กล่าวว่า ตกใจผู้ประกอบกิจกรรมลดความอ้วนทำไมถึงกล้าทำแบบนี้ ไม่สมควรและไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

กรณีทำนองนี้เหมือนกับทางโรงแรมบาร์เกย์ที่ขึ้นป้าย พาวเวอร์ บอย โดยมีภาพผู้ชายนอนมือก่ายศีรษะ และอ้าขาให้ตัวภาษาอังกฤษที่เป็นตัว Y ลงมาตรงหว่างขาพอดี แสดงถึงความหมายการขายตัว อีกทั้งตั้งอยู่ใจกลางเมือง ติดกับกำแพงเมืองโบราณเชียงใหม่ ใกล้สถานการศึกษา และวัด ทางกลุ่มเชียงใหม่อารยะไปถือป้ายประท้วงหน้าโรงแรม แต่ทางผู้จัดการก็ไม่ได้สนใจ เพียงแต่ออกมารับเรื่อง และรับปากว่าจะแก้ไข จนป่านนี้ก็ไม่ได้แก้ไขแต่อย่างใด ถือว่าไม่มีความรับผิดชอบ

นายนทีกล่าวต่อว่า เรื่องลดความอ้วนด้วยการใช้ระบบอินฟาเรด ที่ผู้ประกอบการลดความอ้วนโฆษณานั้น

อยากจะฝากเตือนน้องๆ นิสิตนักศึกษาให้ระวังเรื่องนี้ ถือว่าเสี่ยงต่อชีวิต เป็นการลดความอ้วนที่อันตราย ราคาถูก อย่าเห็นกับการโฆษณาชวนเชื่อ หากได้ผลจริงและไม่เป็นอันตรายทางองค์การอาหารและยา (อย.) หรือหน่วยงานของรัฐก็จะให้ตรารับรอง หรือออกมารับรองแล้ว แต่นี่ภาครัฐไม่ได้ให้การรับรองแต่อย่างใด ทราบมาว่าขณะนี้มีนักศึกษาหลงเชื่อไปเข้าคอร์สกับสถาบันแห่งนี้ ก็จะเหมือนกับแชร์ลูกโซ่ หรือไม่ก็ประเภทขึ้นหลังเสือแล้วลงไม่ได้ ต้องดำเนินการตามคอร์สให้จบ บางคนผอมจนผิดหูผิดตา ถือว่าอันตรายมาก อยากจะให้ทางหน่วยงานราชการเข้าตรวจสอบสถาบันลดความอ้วนแห่งนี้เป็นการด่วนด้วย

วันเดียวกัน นายธีระ สลักเพชร รมว. วัฒนธรรม กล่าวถึงป้ายโฆษณาลามกว่า ไม่เหมาะสม และไม่ควรมาติดตั้งในพื้นที่ชุมชน

โดยเฉพาะ จ.เชียงใหม่ เป็นเมืองท่องเที่ยว แต่ดีใจและชื่นชมที่สภาวัฒนธรรม จ.เชียงใหม่ ผลักดันให้รื้อถอนออกไป เมื่อภาคเอกชนมีความเข้มแข็งเช่นนี้ น่าจะเป็นเรื่องที่ดี ในแต่ละจังหวัดมีคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์และปลอดภัย ที่สามารถหยิบยกเรื่องป้ายเหล่านี้มาพิจารณาได้อยู่แล้ว อีกทั้งยังมีคณะกรรมการในระดับตำบลที่มีนายก อบต.หรือเทศบาลดูแล เชื่อว่าจะควบคุมได้

"กฎหมายควบคุมเรื่องนี้อยู่แล้ว และป้ายโฆษณาก็เป็นสื่อโฆษณาอย่างหนึ่ง วัฒนธรรมทุกจังหวัดก็มีหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว สามารถดำเนินการได้ทันที แต่ผมไม่อยากจะใช้กฎหมายบังคับ หรือดำเนินการทางกฎหมาย แต่ให้เป็นเรื่องของภาคเอกชน เช่น สภาวัฒนธรรมจังหวัด คณะอนุกรรมการควบคุมดูแลสื่อในแต่ละจังหวัด เข้ามาจัดการมากกว่า เพราะจะแก้ปัญหาได้ถาวรมากกว่าการใช้กฎหมาย" นายธีระกล่าว

รมว.วัฒนธรรม กล่าวต่อว่า เรื่องนี้กรมศิลปากรมีอำนาจในการดูแล รวมทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีพ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ ควบคุมอยู่

แต่อำนาจของกรมศิลปากรยังมีไม่มากนัก อาจทำให้การดูแลไม่สามารถแก้ไขได้ทั้งหมด ส่วนในอนาคตจะจัดเรตของสื่อสิ่งพิมพ์ให้ชัดเจน เหมือนสื่อภาพยนตร์ หรือสื่อโทรทัศน์ และรวมไปถึงหนังสือที่วางขายในร้านขายหนังสือด้วย ที่จะไม่ให้มีหนังสือบางประเภทไปวางขาย และแสดงให้เห็น ใครจะซื้อต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน